พาณิชย์วางแผนรับมือผลไม้ภาคใต้ทะลัก

  • ขอแรงห้าง-ปั๊มน้ำมันซื้อตรงจากเกษตรกร
  • อ้อน”ทอท.”เปิดพื้นที่ขายภายในสนามบิน
  • ชดเชยดอกเบี้ย3%ให้ล้ง-ผู้ส่งออกซื้อส่งออก

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับผู้ประกอบการห้างค้าปลีกค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า สถานีบริการน้ำมัน ว่า กรมเตรียมแผนรับมือผลไม้ภาคใต้ที่กำลังจะออกสู่ตลาดตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์สั่งการ โดยเฉพาะมังคุดและลองกอง ที่ปีนี้คาดว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดมากขึ้นกว่าปีก่อน โดยมังคุด คาดว่าผลผลิตจะเพิ่มจาก 110,000 ตันเป็น 150,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 30% และลองกองจาก 40,000 ตันเป็น 70,000 ตัน เพิ่มขึ้น 40% ซึ่งกรมเตรียมเชื่อมโยงตลาดกระจายผลไม้ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งร้านธงฟ้าประชารัฐ ตลาดต้องชม ตลาดกลาง สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง เช่น ปตท. บางจาก และพีที และห้างสรรพสินค้า เช่น เทสโก้โลตัส บิ๊กซี แม็คโคร ท็อปส์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต เดอะมอลล์ เป็นต้น ล่าสุด ผู้ประกอบการได้ตกลงซื้อผลไม้จากเกษตรกรแล้ว 7,864 ตัน

ขณะเดียวกัน จะจัดกิจกรรมตลาดเฉพาะสินค้าที่ตลาดคลองแห จ.สงขลา และตลาดต้องชม 50 แห่ง ตลาดกลางและผลไม้ 8 แห่ง และตลาดสดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 8 แห่งในช่วงวันหยุดวันแม่ เพื่อรณรงค์การบริโภคผลไม้ โดยเชื่อมโยงผลไม้จากแหล่งเพาะปลูก เป้าหมาย 400 ตัน นอกจากนี้ จะหารือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ให้ช่วยเปิดพื้นที่ในสนามบินสำหรับวางจำหน่ายผลไม้ โดยเฉพาะมังคุดและลองกอง และขอความร่วมมือสายการบินที่บินลงใต้ เมื่อผู้โดยสารซื้อขึ้นเครื่อง หรือต้องการโหลด ก็ขอให้ไม่คิดค่าน้ำหนัก เพื่อกระตุ้นให้ซื้อไปเป็นของฝากเพิ่มมากขึ้น

ส่วนตลาดต่างประเทศ จะเร่งรัดผลักดันส่งออกให้ได้มากขึ้น โดยจะช่วยเหลือล้ง หรือผู้ส่งออก ที่ไปขอกู้เงินจากสถาบันการเงิน เพื่อนำมาใช้รับซื้อผลไม้จากเกษตรกรไปส่งออก โดยตั้งเป้าวงเงินกู้ประมาณ 1,000 ล้านบาท และจะใช้เงินจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ชดเชยดอกเบี้ยให้ 3% ระยะเวลา 6 เดือน คาดว่าไม่เกิน 15 ล้านบาท เพื่อผลักดันการส่งออกให้ได้วันละ 1,000 ตัน หรือเดือนละ 30,000 ตัน แต่ในการขอให้ช่วยชดเชยดอกเบี้ย จะต้องมีหลักฐานการส่งออก หลักฐานการกู้เงินมาแสดงด้วย

“ มั่นใจว่า หากเร่งระบายผลผลิตที่ออกสู่ตลาดออกจากพื้นที่แหล่งผลิตได้เร็ว จะช่วยผลักดันให้ราคาสูงขึ้นได้ โดยมังคุด คาดว่า เกรด A , B ราคาจะปรับขึ้นเกินกก.ละ 40 บาทตลอดฤดูกาล ส่วนลองกอง ราคาจะดีขึ้นเช่นเดียวกัน”