พาณิชย์จับพ่อค้าทุเรียนเวียดนามโกงตาชั่ง

.ดัดแปลงตาชั่งให้มีน้ำหนักเกินจริง 0.5 กก.
.ส่งแจ้งความดำเนินคดีโทษหนักทั้งจำและปรับ
.ลุยตรวจรถเร่-แผงผลไม้ทั่วประเทศปกป้องผู้บริโภค

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ค.66 นายตรวจชั่งตวงวัด กรมการค้าภายใน ได้ตรวจสอบรถเร่จำหน่ายทุเรียน ในย่านบางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พบว่า เครื่องหมายคำรับรอง (ตราครุฑ) ที่ติดอยู่กับเครื่องชั่งสปริงของพ่อค้าทุเรียนรายหนึ่งถูกทำลาย เมื่อนายตรวจได้นำตุ้มน้ำหนักมาตรฐาน 4 กิโลกรัม (กก.) ไปทดสอบ ปรากฏว่า เครื่องชั่งแสดงค่าน้ำหนัก 4.5 กก. มากกว่าความเป็นจริง 0.5 กก. จากการตรวจสอบพบว่า มีการแก้ไขดัดแปลงสปริงเครื่องชั่ง เพื่อให้แสดงน้ำหนักมากกว่าความเป็นจริง นายตรวจจึงได้จับกุมพ่อค้าทุเรียน ซึ่งเป็นเจ้าของเครื่องชั่งดังกล่าว และเป็นชาวเวียดนาม
พร้อมกันนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหาใช้เครื่องชั่งในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากับผู้อื่น กระทำการด้วยวิธีการใดๆ เพื่อให้ความเที่ยงของเครื่องชั่งผิดเกินอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด ตามมาตรา 26 เป็นผู้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งเครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบทางการค้า เป็นความผิดตามมาตรา 25 วรรค 1,26,70,75/1,76(2), 80(3) และ มาตรา 79 พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 280,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 270 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ เพื่อดำเนินการสอบสวนและคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


“ปีนี้ผลไม้ รวมทั้งทุเรียนมีราคา ทุเรียน หมอนทอง กก.ละประมาณ 150 บาท ถ้าเครื่องชั่งแสดงค่ามากกว่าความเป็นจริงไป 0.5 กก. ก็เท่ากับว่าผู้ซื้อถูกโกงไป 75 บาท นี่แค่ครั้งเดียว ถ้าทำแบบนี้หลายครั้ง หลายวันติดต่อกัน มูลค่าความเสียหายก็ยิ่งสูง การกระทำนี้ถือเป็นการเอาเปรียบผู้ซื้อ กรมยอมรับไม่ได้ จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ จะส่งสายตรวจออกตรวจสอบเครื่องชั่งขายผลไม้อย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ รวมถึงขอความร่วมมือผู้ดูแลตลาด และสายตรวจอาสา DIT ที่ประจำอยู่ตามตลาดต่างๆ ให้ช่วยสอดส่องดูแล และตรวจสอบเครื่องชั่งในตลาดอย่างเข้มงวด ถ้าพบผู้ใดมีเจตนาโกงเครื่องชั่ง ขอให้ยกเลิกสัญญาเช่า และไม่ให้กลับไปขายสินค้าในตลาดได้อีก”
สำหรับประชาชนที่ซื้อสินค้าในตลาด ขอแนะนำให้ สังเกตเครื่องชั่งว่าเข็มต้องเริ่มต้นที่เลขศูนย์ และเครื่องชั่งต้องมีสติ๊กเกอร์การตรวจสอบประจำปีของกรม ซึ่งปีนี้ สติ๊กเกอร์เป็นตราครุฑสีน้ำตาล และหากในตลาดมีเครื่องชั่งกลาง ก็ให้นำสินค้าที่ซื้อไปชั่งที่เครื่องชั่งกลางเพื่อเปรียบเทียบน้ำหนักของน้ำหนักสินค้า หากน้ำหนักไม่ครบตามที่ตกลงซื้อ ให้แจ้สายด่วนกรม โทร.1569 หรือแอปพลิเคชันไลน์ @ MR.DIT


ด้านนายชาตรี อารีวงศ์ ผู้อำนวยการกองชั่งตวงวัด กล่าวว่า การจับกุมผู้ค้าทุเรียนชาวเวียดนามรายนี้ สายตรวจ ได้ออกตรวจเป็นประจำอยู่แล้ว แต่มีจุดสงสัยคือ ผู้ค้ารายนี้ เป็นรถเร่ ไม่ได้ขายประจำที่ใดที่หนึ่ง และจุดขายอยู่ห่างจากตลาด หรือที่ที่มีคนพลุกพล่าน จึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบ และพบว่า ใช้เครื่องชั่งที่แก้ไขดัดแปลงให้มีค่าเกินจริง 0.5 กก. จึงได้จับกุมดำเนินคดี ส่วนปีที่ผ่านมา จับกุมผู้ค้าทุเรียนที่โกงตาชั่งได้ 14 ราย จำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 7 ราย โดยเป็นชาวเวียดนามทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ต้องโทษจำคุก 2 ปี หลังจากพ้นโทษแล้ว จะผลักดันออกนอกประเทศต่อไป


นอกจากนี้ ในช่วงปี 65 ถึงปัจจุบัน มีผู้กระทำความผิดพ.ร.บ. มาตราชั่งตวงวัด พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมดัง รวม 585 ราย โดยแจ้งความดำเนินคดีรวม 22 ราย เปรียบเทียบปรับ 541 ราย และ ยึด/ทำลาย/ผูกบัตรรวม 22 ราย