- ลั่นต้องวางหลักเกณฑ์การเปิดให้บริการตามหลักความปลอดภัย
- กรมสนับสนุนบริการสุขภาพชี้ ได้ทำหลักเกณฑ์การประเมินกันไว้แล้ว
- ช่วงแรกให้นวดได้ตั้งแต่ช่วงล่าง อก ตัว และเท้า
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีกลุ่มหมอนวดมาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอให้พิจารณาอนุญาตให้เปิดกิจการนวด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการกิจการนวดและหมอนวด หลังต้องปิดกิจการชั่วคราวตามมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า เรื่องนี้อยู่ที่การพิจารณาของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพอยู่ระหว่างการวางหลักเกณฑ์การเปิดให้บริการตามหลักความปลอดภัย ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการหารือกับสมาคมผู้ให้บริการนวด และสมาคมที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ สมาคมสปาไทย โดยมีการทำหลักเกณฑ์การประเมินกันแล้วว่า ถ้าผ่อนคลายแล้วจะทำอย่างไรให้มีความปลอดภัยและสามารถให้บริการได้ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือ การเว้นระยะห่าง ซึ่งจะทำเป็นข้อเสนอไป มีการทำการประเมินตนเอง เบื้องต้นที่มีการคุยกันว่าเปิดให้ทำหัตถการตั้งแต่ช่วงต่ำกว่าระดับเอวลงไป อาทิ นวดฝ่าเท้า นวดตัวส่วนล่าง ประคบ การสครับผิว และการแรป เป็นต้น
“ทางกรมฯเข้าใจความต้องการของกลุ่มหมอนวดที่ร้องเรียน เพราะอาจเข้าใจว่า กลุ่มกิจการของตนเอง อยู่ในกลุ่มผ่อนปรนในระยะที่ 2 ซึ่งที่ผ่านมาทางกรม สบส. ได้เตรียมการไว้หมดแล้ว ถ้าได้รับการผ่อนปรน ก็จะอนุญาตให้ทำช่วงล่างก่อน ตั้งแต่อก ตัว และเท้า ส่วนคอ บ่า ไหล่ อาจจะต้องเว้นไว้ก่อน เพราะใกล้กับบริเวณใบหน้า ซึ่งเท่าที่คุยกับผู้ประกอบการก็มีความพอใจ อย่างน้อยก็ช่วยให้กลับมามีงานทำอีกครั้ง”
นพ.ธเรศ กล่าวว่า สำหรับคลินิกเสริมความงามที่ได้รับการผ่อนปรนระยะที่ 2 นั้น ทางกรมฯ จะส่งทีมออกสุ่มตรวจมาตรฐานและการปฏิบัติตามแนวทางควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ต่อไป ส่วนกรณีคลินิกเสริมความงามย่านวิภาวดี ที่ลักลอบศัลยกรรมในช่วงที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้ส่งเรื่องให้ผู้ว่าฯกทม.เอาผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว ส่วนความเสียหายที่เกิดกับผู้รับบริการนั้น ก็ได้เรียกผู้ประกอบการมาตักเตือนแล้ว และส่งรายชื่อแพทย์ที่ทำหัตถการไปให้แพทยสภาพิจารณาด้านจรรยาบรรณแพทย์ เนื่องด้วยมีการฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง
