ผลสำรวจชี้เทรนด์ปีนี้ “นักท่องเที่ยวทั่วโลก” พร้อมใช้จ่ายเพื่อการเดินทาง

  • สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
  • ในแบบแบบยั่งยืน

รายงานล่าสุดของสภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก WTTC และ Trip.com Group ร่วมกับ Deloitte ระบุว่า ความต้องการของนักท่องเที่ยวต่อการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนนั้นเพิ่มสูงขึ้น โดยร้อยละ 69 ของนักท่องเที่ยว ตั้งใจที่จะมองหาตัวเลือกด้านการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน โดยข้อมูลที่นำมาประกอบจาก Deloitte เพื่อวิเคราะห์ถึงเทรนด์ที่ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมการเดินทางท่องเที่ยวในปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะยังคงส่งผลต่อเนื่องในปี 2566

โดยมีรายงานที่ใช้ชื่อว่า “โลกและการเปลี่ยนแปลง: เทรนด์ของการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไปนับจากปี 2565 และในอนาคต” (A world in motion: shifting consumer travel trends in 2022 and beyond) ระบุว่า ความยั่งยืนนั้นเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการวางแผนเดินทางท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวมีความต้องการที่จะลดคาร์บอน ฟุตพรินต์ (carbon footprint) หรือผลกระทบจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

โดยผลสำรวจในรายงานแสดงให้เห็นว่า 3 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวกำลังพิจารณาถึงการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนเพิ่มมากขึ้นสำหรับการเดินทางในอนาคตและนักท่องเที่ยวเกือบร้อยละ 60 ได้ตัดสินใจเลือกการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนมากขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ผลสำรวจยังพบด้วยว่า ประมาณ 3 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวที่มีฐานะ ยินดีจ่ายเงินเพิ่มขึ้นเพื่อให้การเดินทางท่องเที่ยวของตนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

สำหรับปีที่แล้ว สืบเนื่องจากการท่องเที่ยวที่หยุดชะงักมามากกว่า 2 ปี นักท่องเที่ยวได้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ความปรารถนาที่จะเดินทางท่องเที่ยวนั้นยังคงสูงเป็นอย่างมาก โดยมีอัตรานักท่องเที่ยวพักค้างคืนในต่างประเทศเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 109 เมื่อเทียบกับปี 2564

จากรายงานพบว่า ในปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวยินดีที่จะเพิ่มงบค่าใช้จ่ายสำหรับแผนการท่องเที่ยวในวันหยุดพักผ่อนมากขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวร้อยละ 86 วางแผนใช้จ่ายเงินเพื่อท่องเที่ยวต่างประเทศในจำนวนเดียวกับหรือมากกว่าที่ใช้ในปี 2562 3 โดยนักท่องเที่ยวชาวสหรัฐฯ เป็นผู้จับจ่ายใช้สอยรายใหญ่ที่สุด เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวชาติอื่น

สำหรับสถานการณ์การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในปีนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและวิกฤตค่าครองชีพทั่วโลก แต่นักท่องเที่ยวเกือบ 1 ใน 3 (หรือ ประมาณร้อยละ 31) ระบุว่า พวกเขายินดีที่จะใช้จ่ายเงินเพื่อท่องเที่ยวต่างประเทศมากกว่าในปี 2565

นอกจากนี้ จากข้อมูลการติดตามสถานการณ์ผู้บริโภคทั่วโลก โดย Deloitte (Deloitte’s ‘Global State of the Consumer Tracker) ซึ่งทำการสำรวจในช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว พบว่า มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบสำรวจ (ร้อยละ 53) วางแผนจะเข้าพักโรงแรมในอีก 3 เดือนถัดไปด้วย

ทั้งนี้ ผลสำรวจอื่นๆ ในรายงาน ระบุด้วยว่า ยอดขายแพ็กเกจอาบแดดชมทะเลสำหรับวันหยุดในปี 2565 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 75 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้และช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวชมชายหาดและอาบแดดในยุโรปมีจำนวนเพียงร้อยละ 15 ซึ่งต่ำกว่าปีในปี 25626

ทั้งนี้ ตามรายงาน ‘การวิจัยผลกระทบทางเศรษฐกิจของเมือง’ โดย WTTC ฉบับล่าสุด พบว่า การเยี่ยมชมเมืองใหญ่ในปี 2565 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 58 เมื่อเทียบเป็นรายปี และต่ำกว่าในปี 2562 ในอัตราที่น้อยกว่าร้อยละ 14 และสำหรับการพักผ่อนวันหยุดระดับหรูหราจะเป็นที่นิยมเป็นพิเศษ โดยคาดว่ายอดขายห้องพักในโรงแรมหรูจะสูงถึง 9.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2568 (เทียบกับ 7.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2562)5 นอกจากนี้ ผลสำรวจพบว่า นักท่องเที่ยวเกือบร้อยละ 60 ระบุว่าพวกเขาได้จ่ายเงินเพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไปแล้ว หรือพิจารณาที่จะจ่ายหากราคาสมเหตุสมผล

ที่มาข้อมูลจาก WTTC /Trip.com Group / Deloitte