นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) เสียบบัตรแทนกันระหว่างการลงมติร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า เรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นน่าจะมาจากเหตุผล 2 ประการคือจำนวนช่องเสียบบัตรไม่เพียงพอกับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงจำเป็นต้องใช้ช่องเสียบบัตรซ้ำซ้อนหรือใช้ช่องร่วมกัน ซึ่งไม่ใช่ปัญหาสำคัญ เพราะถ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอยู่ในห้องประชุมก็จะเสียบบัตรด้วยตนเองทั้งสิ้น ไม่ฝากกดอย่างที่กล่าวอ้างกัน เว้นแต่ผู้ที่ไม่อยู่ในห้องประชุมเท่านั้น จะฝากบัตรให้ลงคะแนนแทน ซึ่งการลงคะแนนทุกครั้งจะมีวิปของแต่ละพรรคเดินชูนิ้วเป็นสัญลักษณ์ ในการลงคะแนน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการลงคะแนนในแต่ละครั้ง และส่วนใหญ่ผู้มีหน้าที่เป็นวิปจะลงมติของตัวเองเสียก่อน ก่อนที่จะเดินไปกำกับการลงคะแนนของเพื่อนสมาชิกคนอื่น ๆ
“อีกปัญหาเกิดจากการที่รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ สุ่มเสี่ยงที่จะแพ้มติหรืออาจจะเกิดเหตุสภาล่ม สมาชิกไม่ครบองค์ประชุม ถ้าหากพรรคฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือเข้าร่วมประชุมหรืองดการแสดงตน ซึ่งเป็นเกมการเมืองทดสอบความพร้อมของสมาชิกฝ่ายรัฐบาล ทำให้วิปรัฐบาลต้องกำชับให้ลงคะแนนโดยพร้อมเพรียงกัน และคาดโทษผู้ขาดประชุม เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้ ส.ส.บางคนที่ติดภารกิจไม่สามารถมาร่วมประชุมได้ จึงฝากบัตรกับเพื่อนสมาชิกด้วยกัน เพื่อใช้สิทธิ์กดบัตรแทน เพราะฉะนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะแก้ไขได้ เมื่อเปิดใช้ห้องประชุมสุริยันอย่างเป็นทางการ เพราะมีช่องลงคะแนนเพียงพอกับจำนวนสมาชิก จึงสามารถจะกำหนดที่นั่งของสมาชิกได้ หนึ่งช่องต่อหนึ่งคน และติดตั้งทีวีวงจรปิดเพื่อป้องกันการใช้สิทธิ์กดบัตรแทนกันด้วย” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวว่า ส่วนกรณีรัฐบาลมีเสียงสนับสนุนปริ่มน้ำ เป็นปัญหาทางการเมืองที่แก้ไขได้ยาก เพราะรัฐบาลนี้มีพรรคการเมืองเข้าร่วมรัฐบาลจำนวนเท่าเดิม เสียงสนับสนุนจากส.ส.ก็มีเท่าเดิม อาจจะมีเพิ่มเฉพาะกรณีมีงูเห่าลงคะแนนสนับสนุนเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาส่วนบุคคล ขึ้นอยู่ที่ความรับผิดชอบและจิตสำนึกของแต่ละบุคคลมากกว่า ถ้า ส.ส.ทุกคนเคร่งครัดต่อระเบียบวินัย และภาระหน้าที่ ซื่อสัตย์ต่อตนเองแล้ว ปัญหาต่าง ๆ จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
