ประชาชนแห่ขายทองหลังสูงเป็นประวัติการณ์

นายธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มฮั่วเซงเฮง กล่าวยืนยันว่า ร้านทองยังมีสภาพคล่องเพียงพอในการรับซื้อทองคำคืน แม้ขณะนี้จะมีประชาชนรวมถึงนักลงทุนที่นำทองมาขายจำนวนมาก เนื่องจากราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แต่ถือว่าปริมาณที่นำมาขายยังน้อยกว่าช่วงเดือนมีนาคม ประกอบกับ ช่วงนี้ร้านทองสามารถส่งออกทองคำได้ ทำให้มีสภาพคล่องหมุนเวียนเพียงพออย่างแน่นอน

นายธนรัชต์ กล่าวว่า ราคาทองคำทั้งในและต่างประเทศขณะนี้ถือว่าพุ่งแตะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และมองว่าราคาทองคำแท่งมีโอกาสสูงที่จะทะลุ 30,000 บาท เพราะราคาทองคำยังร้อนแรง โดยสัปดาห์นี้ต้องติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่จะประกาศในวันศุกร์นี้

ส่วนปัจจัยที่น่าสนใจต่อไป คือ วันที่ 15 สิงหาคม ที่จะมีการเจรจาระหว่างสหรัฐกับจีน น่าจะได้เห็นความคืบหน้าของการคลี่คลายปัญหาระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจ และจะมีผลอย่างชัดเจนต่อราคาทองคำอย่างแน่นอน สำหรับแนวต้านราคาทองคำในช่วงนี้มองไว้ที่ 2,055 และ 2,065 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับระยะสั้นที่ 2,000 – 2,020 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศ แนวต้านที่ 30,050 – 30,150 บาทต่อบาททองคำ และแนวรับที่ 29,700 บาทต่อบาททองคำ

“ในสถานการณ์ทองคำแบบนี้ แนะนำว่าคนที่มีทองคำอยู่ในมืออาจจะทยอยขายทองคำบางส่วน แล้วถือไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อรอแนวโน้มที่ราคาอาจจะปรับขึ้นไปได้อีก  ส่วนคนที่ต้องการจะลงทุนช่วงนี้คงต้องรอจังหวะให้ราคาทองคำย่อลงมาบ้าง หลังจากปรับขึ้นไปสูงมากแล้ว อาจจะสังเกตกองทุนขนาดใหญ่อย่าง SPDR หากเริ่มเห็นสัญญาณการขายของกองทุนขนาดใหญ่ออกมา ก็อาจจะปรับพอร์ตทองคำไปตามสถานการณ์นั้น ๆ ได้”  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มฮั่วเซงเฮง กล่าว

นายธนรัชต์ กล่าวด้วยว่า สำหรับนักลงทุนที่อยากสะสมทองคำระยะยาว  แม้ว่าขณะนี้ราคาทองคำจะสูงขึ้นมากแล้ว แต่หากพิจารณาปัจจัยสนับสนุนระยะยาวถือว่ามีอยู่มาก ทั้งดอกเบี้ยต่ำ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก เงินดอลลาร์อ่อนค่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐปลายปีนี้ ที่สำคัญ คือ เดือนกันยายนนี้เป็นช่วงที่สหรัฐจะปิดงบดุลปี  2563 หากตัวเลขหนี้สาธารณะของสหรัฐสูงขึ้นมาก เพราะการอัดฉัดเงินเข้าสู่ระบบก็อาจจะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมาอีกได้ และราคาทองคำก็จะได้รับผลบวกนั้นด้วย