“บิ๊กตู่” กดปุ่มโอนเงินช่วยเหลือชาวนา สัญญารัฐจะทำให้ดีที่สุด ลั่นเยือนสุพรรณฯ แล้วนึกถึงเพลง “เลือดสุพรรณ”

วันนี้ (9 ธ.ค. 2564) ณ ตลาดกลางสินค้าเกษตรสุพรรณบุรี ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นสักขีพยานในโอกาสที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง มอบเงินตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมาตรการคู่ขนานปีการผลิต 2564 – 2565 แก่ผู้แทนเกษตรกร จำนวน 7 คน พร้อมกดปุ่มโอนเงิน ตามมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมาตรการคู่ขนานปีการผลิต 2564/2565 ทั่วประเทศ ผ่านบัญชีธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์เข้าร่วม

สำหรับการโอนเงินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว และมาตรการคู่ขนาน ปีการผลิต 2564/65 ข้อมูล ณวันที่ 30 พ.ย. 2564 ได้มีการโอนเงินให้เกษตรกรแล้วจำนวน 631,963 ราย เป็นเงิน 12,653.18 ล้านบาท โดยในวันที่ 9 – 13 ธ.ค. 2564 นี้ จะมีแผนการโอนเงินให้เกษตรกรอีก จำนวน 3.58 ล้านราย เป็นเงินจำนวน 64,823.51 ล้านบาท ในส่วนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจังหวัดสุพรรณบุรีได้รับเงินโอนโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 รอบที่ 1 จำนวน 38,717 ราย เป็นจำนวนเงิน 829,808,027.98 บาท และมีเกษตรกรได้รับเงินโอนโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 จำนวน59,674 ราย เป็นจำนวนเงิน 883,126,641.75 บาท

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งแรกที่นึกถึงเมื่อเดินทางมาจังหวัดสุพรรณบุรีคือเพลงเลือดสุพรรณ ชอบเนื้อร้องช่วง“มาด้วยกันไปด้วยกัน” สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวและมาตรการคู่ขนานครั้งนี้ ถือเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ ส่วนตัวมีความห่วงใยเกษตรกรที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติและรู้ดีถึงความยากลำบากในการได้ผลผลิตมาแต่ละครั้ง ย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญในด้านภาคการเกษตรเป็นภาคการผลิตที่ทำให้เศรษฐกิจประเทศไทยเจริญเติบโตมาโดยตลอด ยืนยันเจตนารมณ์ของรัฐบาลต้องการให้ประชาชนมีวิธีการผลิตที่เหมาะสม มีรายได้ที่ดีขึ้น สร้างรอยยิ้ม สร้างความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น รัฐบาลพยายามที่จะลดต้นทุนการผลิต ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้นรวมถึงขาดแคลนแรงงานโดยใช้เทคโนโลยีดัดแปลงให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มผลผลิต นำมาทดแทนแรงงานที่ขาดแคลน 

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเน้นย้ำว่า รัฐบาลจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านมาตรการโครงการต่าง ๆ เช่นโครงการบ้านหลังแรกให้กับประชาชนที่ไม่มีที่อยู่อาศัย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตในทุกมิติของประชาชน ทั้งนี้ รัฐบาลจะต้องแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในเรื่องของการขายสินค้าเกษตร อุปสงค์และอุปทานซึ่งเป็นตัวแปรทำให้ผลผลิตมีราคาสูง/ต่ำ แต่ที่สำคัญคืออยากให้ทุกคนยึดหลักแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมกับย้ำว่า รัฐบาลนี้ช่วยเหลือมากที่สุด มากกว่าหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะมาตรการขายข้าวให้ครบวงจร โดยเฉพาะการจัดหาตลาดกลางเพื่อขายสินค้าเกษตร ให้ความเป็นธรรมและทั่วถึง ซึ่งเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรนำไปสู่ความมั่นคงยั่งยืน แก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สิน และให้เกษตรกรมีหลักคิดปลูกพืชอย่างระมัดระวัง ส่งเสริมปลูกพืชเศรษฐกิจ มากกว่าการปลูกพืชหมุนเวียน

พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับว่าราคาข้าวผันผวนตลอดเวลาเนื่องจากต้องแข่งขันกับต่างประเทศ  โดยเฉพาะข้าวในประเทศไทยที่มีราคาสูง สู้ราคาตลาดโลก ที่ราคาต่ำไม่ได้  ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลดต้นทุนการผลิต ให้มีกำไร โดยเรื่องนี้รัฐบาลไม่เคยหยุดคิด เน้นในเรื่องของการปลูกข้าวที่มีคุณภาพและมีตลาดรองรับ พร้อมผลักดันนโยบายให้เกษตรกรเป็นสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ติดตามต้นแบบที่ปลูกข้าวได้มีราคาด้วยการสร้างกระบวนการเรียนรู้ 

“นายกรัฐมนตรียังขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือทำงานเพื่อเกษตรกร และกำชับให้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ พร้อมกล่าวอวยพรในโอกาสปีใหม่ ขอให้ชาวสุพรรณบุรีทุกคนมีความสุข มีแต่ความเจริญ สุขภาพแข็งแรงตลอดไป” นายธนกร กล่าว

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้พบปะเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี รวมทั้งเยี่ยมชมกระบวนการรวบรวมข้าวเปลือก จากสมาชิกสหกรณ์ตามโครงการมาตรการคู่ขนานในพื้นที่ดําเนินงานของตลาดกลางสินค้าเกษตรสุพรรณบุรี ก่อนเดินทางกลับ