“บิ๊กตู่”ฉุนหนัก! ต้องแจงแต่เรื่องซ้ำซาก ซัดกลับส.ส.ไม่ให้เกียรติด่าเหมือนหมูเหมือนหมา

  • แซะไม่กู้เงินจนผิดกฎหมายหรอก
  • ปัด! ลาออกถ้าวัคซีนไม่มาเดือนมิ.ย.นี้
  • มึนส.ส.นำผู้ต้องหามาแถลงข่าวสู้คดีที่สภา

เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่รัฐสภา ต่อมาเวลา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมสภา ว่า ตนได้ติดตามการอภิปรายมาตั้งแต่เช้า เนื่องจากมีภารกิจสำคัญที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตนเป็นนายกฯ ต้องทำหลายงาน บางงานมีการบริหาร มีคณะทำงานทำอยู่แล้ว ตนต้องตัดสินใจหลายเรื่องด้วยกันตั้งแต่ช่วงเช้า และในช่วงเย็นยังได้ประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ตนแต่งชุดขาวเข้ามาสภาเมื่อสักครู่นี้ ตนให้ความสำคัญกับสภา ให้เกียรติท่านเสมอ และทุกคนต้องรู้ว่าการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ตนฟังมาตั้งแต่เมื่อเช้ารู้สึกสะท้อนใจการใช้คำพูดใช้วาจา ขอบ่นเสียหน่อย ควรจะเกิดขึ้นในสภาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการฉีกกระดาษ ฉีกร่าง พ.ร.ก. ตนว่าควรไปทำข้างล่าง มันไม่สมควร ตนไม่เคยเห็น ที่ผ่านมามันดีขึ้นหรือแย่ลงตนก็ไม่รู้ แต่ตนก็เคารพอยู่ดี

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ตนได้กลับมาตอบคำถามเดิม ข้อมูลเก่า ไม่ว่าจะเป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 หรือร่าง พ.ร.ก. เงินกู้ 5 แสนล้าน แล้วเดี๋ยวก็จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เป็นข้อมูลเหมือนเดิม ชี้แจงไปแล้วก็ไม่ฟัง ดังนั้นขอชี้แจงไปยังประชาชนขอให้ติดตามด้วย ว่าอะไรที่ตอบไปแล้วและอะไรที่ ส.ส.บางคนพูดออกมาเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ ขออย่าดูถูกประชาชน

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า กรณีโรคระบาดที่พูดมาว่ามีระยะ 1 ระยะ 2 ระยะ 3 ตนขอถามว่าวันนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดจะจบเมื่อไร จะจบได้ไหม ก็ไม่มีใครสามารถตอบได้ ซึ่งรัฐบาลก็ต้องเตรียมความพร้อม งบประมาณภาครัฐมีไหม การจัดเก็บรายได้ของภาครัฐพอหรือไม่ ก็ไม่พอ การบริหารในงบเงินกู้ 1 ล้านล้าน ถ้าใครเคยเป็นรัฐบาลก็จะรู้ว่ายากง่ายแค่ไหน การที่จะเบิกจ่ายตามที่สมาชิกพูดก็ทำไปแล้ว พยายามเร่งอย่างเต็มที่ ไม่ใช่อนุมัติเข้า ครม.แล้ววันรุ่งขึ้น จะเบิกแล้วมะรืนจ่าย เป็นไปไม่ได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ในเรื่องของจีดีพีก็หดลงทุกประเทศ เรากำลังสร้างเศรษฐกิจใหม่ เพื่อให้มีรายได้ในอนาคต ถามว่ารู้จักอนาคตหรือไม่ เคยทำบ้างหรือไม่อนาคต รัฐบาลที่ผ่านมาท่านก็อยู่ในรัฐบาล ทำบ้างหรือไม่ ทำแบบวันนี้ ทั้งถนนหนทางการลงทุน อีอีซี โครงสร้างพื้นฐาน ระบบดิจิทัล ทุกอย่างทำมา 5 ปี บวก 2 ปี ตนจำได้เหมือนกันว่าเข้ามาต้องเจออะไรบ้าง ซึ่งตนไม่จำเป็นต้องมาพูดทั้งหมด เพราะรู้แน่แก่ใจกันทั้งหมด ยืนยันว่างบสาธารณสุขไม่เคยไปตัด แต่การจัดซื้อต่างๆ ต้องเป็นไปตามกระบวนการ หรือสมัยรัฐบาลท่านไม่มีก็ไม่รู้เหมือนกันในเรื่องของกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งก็พูดแต่ว่ารัฐบาลนี้ไม่มีการตรวจสอบ ทำไมจะไม่มี ตนไม่ถูก ป.ป.ช., ส.ต.ง.หรือหน่วยงานใด ตรวจสอบมาบ้างหรืออย่างไร ซึ่งตนก็ได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้ว เว้นแต่บางคนที่ชี้แจงไม่ได้

“ยืนยันว่าพยายามทำทุกมิติในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งต้องดูว่ามีกี่คน กี่กลุ่ม กี่พวก วันนี้ในเรื่องการจ้างงานก็มีมาตรา 33 มีกระทรวงแรงงานเข้าไปดู เคยคุยกับสมาคมแรงงานหรืไม่ ซึ่งตนต้องทำงานกับเขา การช่วยเหลือจากกองทุนประกันสังคม ก็เป็นรัฐบาลที่เข้าไปช่วยเหลือ กองทุนต่างๆ ก็พร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือรัฐบาล เพราะรู้ว่ารัฐบาลหนักพออยู่แล้ว แต่มีหลายคนที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่นี่แหล่ะ พูดกลับไปกลับมาจนสับสนอลหม่านไปหมด ตนไม่อยู่ก็บอกว่าไม่ฟัง แต่เวลาตนพูดท่านก็ไม่อยู่ พูดแล้วพูดอีกคำเดิม เช่น การเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะ แล้วตนขอถามว่าเงินกู้ 5 แสนล้านบาทกู้ทีเดียวหรือไม่ เป็นการทยอยกู้ใช่หรือไม่ ตนก็ไม่โง่กู้ถึง 60 % ให้มันผิดกฎหมาย”

“รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรด้วยความไม่ละเอียดรอบคอบ พอประชุมทบทวนท่านก็ว่าช้า ไม่ทบทวนท่านก็บอกทุจริต ไปว่ากันในกระบวนการยุติธรรม โชคดีที่ในสภานี้มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เพราะถ้าไปพูดข้างนอกก็มีปัญหาเหมือนกัน พวกชอบพูดข้างนอกระวังด้วยก็แล้วกัน ตนไม่ได้เอาเรื่องโกหกบิดเบือนมาสู้ท่าน ตนพูดไม่ได้ ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องงบประมาณวัคซีนไม่ต้องกลัว ไม่ว่าจะตั้งงบไว้ตรงไหน รัฐบาลหาให้ได้เสมอ ตนขอยืนยันและท่านเป็นคนบอกเองว่าคราวที่แล้ว งบประมาณ 100 % ในส่วน 80 % นั้นให้งบบุคลากรที่เหลือ 20 % พอ แล้ววันนี้กลับมาพูดให้เอาไปดูแลหลายส่วน แล้วงบประมาณพอหรือไม่ ตนจำเป็นต้องพูดบ้างเพราะฟังท่านถล่มมาตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ท่านก็ไม่เคยฟังตน การที่บอกว่าเอาแต่เงิน อีกทางก็บอกกู้ไม่ได้ ภาษีก็บอกไม่ให้เก็บมันย้อนแย้งไปหมด ใครก็ทำไม่ได้ ถ้าท่านทำได้ก็เข้ามาเป็นรัฐบาลได้และทำไป ทั้งนี้ตนให้ความสำคัญกับโรงพยาบาลที่จัดเตรียมไว้สำหรับดูแลโรคปกติ แล้ววันนี้เราป่วยเท่าไร

ผู้ข่าวรายงานว่าระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์ กำลังชี้แจง ทำให้นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงนายกฯว่าทำผิดข้อบังคับการประชุมข้อที่ 69 ไม่ได้เป็นการตอบคำถามเพื่อชี้แจง แต่กิริยาวาจาไม่ให้เกียรติผู้อภิปราย ขอให้ประธานที่ประชุมได้เตือน เพื่อเปลี่ยนกิริยาการตอบคำถามให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมของสภาฯด้วย ที่นี่สภาฯ ไม่ใช่ ครม. และพฤติกรรมข่มขู่ผู้อภิปราย

จากนั้นนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้วินิจฉัยว่า ตนฟังนายกฯชี้แจงตลอด เราก็รู้ลักษณะบุคลิกท่าทางการพูดจาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จะให้นายกฯพูดเหมือนนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ก็ไม่ได้ ดังนั้นเราต้องเข้าใจบุคลิกแต่ละคน ที่สำคัญตนฟังมาตลอดตั้งแต่เช้าที่มีส.ส.อภิปรายพูดถึงนายกฯหนักกว่านี้หลายเท่า แต่ประธานก็ปล่อยให้พูดเต็มที่ ตอนนี้นายกฯชี้แจงก็ไม่ได้ผิดข้อบังคับข้อไหน

ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ ได้ลุกขึ้นกล่าวว่า “อะไรที่มันไม่ดีก็ขอโทษด้วยแล้วกัน ผมขอโทษ ผมก็ขอเอาอีกหน่อยนะ เพราะเมื่อเช้าท่านก็ไล่ผมเหมือนหมูเหมือนหมา การรู้จักจะให้คนให้เกียรติก็ต้องรู้จักให้เกียรติคนอื่นเขาบ้าง”

ส่วนช่องทางโคแวกซ์ที่ยังไม่มีการแจกจ่ายวัคซีนเพราะยังตกลงกันไม่ได้ ต้องเอาเงินไปมัดจำ ราคากำหนดเองก็ไม่ได้ เพราะคาดหวังว่าจะได้ช่องทางต่อจากนี้มา และตอนนี้ก็มาแล้ว ใครบอกว่ามิ.ย.ไม่มา ใครที่พูดว่าจะลาออก พอมาแล้วทำไมไม่ออก ยืนยันว่าเตรียมวัคซีนไว้หลายยี่ห้อ สำคัญว่าตัวแทนบริษัทประเทศไทยมีหรือไม่ ถ้ามาติดต่อจะขึ้นทะเบียนให้เลย ขอให้ทำสัญญาให้ได้ก็แล้วกัน จะถ่วงไว้ทำไม การเก็บวัคซีนไว้ตนไม่เคยเอาชีวิตคนมาเป็นของเล่น

“เมื่อกี้ไปแถลงข่าวกันข้างล่าง เอาผู้ต้องหามาแถลงข่าวสู้คดี ข้างล่างใต้ตึกสภา อะไรเกิดขึ้นในประเทศไทยก็ไม่รู้ ประธานดูแลไม่ไหวหรอกทุกคนต้องช่วยกัน”นายกรัฐมนตรี กล่าว