บางจาก-คอสโมออยล์ รุกตลาดน้ำมัน SAF ชูการบินยั่งยืน

กลุ่มบริษัทบางจาก MOU คอสโม ออยล์บุกตลาดส่งออก เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF เข้าตลาดแดนปลาดิบ ผนึกกำลังนำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สู่น่านฟ้าการบินยั่งยืน

  • กลุ่มบางจากแท็กทีม คอสโม ออยล์ ร่วมพันธมิตรผลิตและส่งออกน้ำมันเครื่องบิน SAF
  • ปี’73 ตั้งเป้านำเข้าตลาดญี่ปุ่น 3 แสนกิโลลิตร/ปี ตามสัญญา 10 ปี 
  • 2 บริษัทเร่งต่อยอดปี’73 บรรลุเป้าคาร์บอนเป็นกลาง ปี93 ลดก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ 

นายปฏิวัติ ทิวะศะศิธร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ-โรงกลั่น กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในนามของบริษัท บีซีพี เทรดดิ้ง จำกัด ในกลุ่มบริษัทบางจาก นำ บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ มิสเตอร์ ยาซูฮิโร ซูซูกิ ประธาน บริษัท คอสโม ออยล์จำกัด ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ประกาศเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ครอบคลุมการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF) ซึ่งผลิตโดยบางจากฯ ให้คอสโมออยล์นำเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นนับเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมพลังงานไทย

ความร่วมมือครั้งนี้สืบเนื่องจากการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างบางจากฯ และคอสโม ออยล์เมื่อ 27 มีนาคม 2566 ร่วมกันศึกษาแนวทางการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน  ครอบคลุมการนำเข้าและใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่คอสโม ออยล์ รับจากบางจากฯ ได้แก่ SAF ไบโอแนฟทา และไบโอเอทานอล ขณะเดียวกันทั้ง 2 บริษัท มีแผนร่วมศึกษาการใช้ประโยชน์และการขนส่งไฮโดรเจนคาร์บอนต่ำ กับเทคโนโลยีการดักจับ การกักเก็บและใช้ประโยชน์จากคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization, and Storage – CCUS) และน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานด้วย

ด้วยศักยภาพของ บางจากฯ คือบริษัทบุกเบิกธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนในประเทศไทย ได้ประกาศแผนดำเนินการผลิต SAF ตั้งแต่กันยายน 2565 ก่อสร้างหน่วยผลิต SAF จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วที่โรงกลั่นบางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ ด้วยกำลังการผลิตวันละ 1,000,000 ลิตร คาดจะเริ่มเปิดดำเนินการได้ช่วงปลายปี 2567 เป็นต้นไป โดยจะมี SAF ผลิตได้ในสัดส่วนสำคัญจำนวนหนึ่งจะส่งออกให้คอสโม ออยล์ ญี่ปุ่น ตามข้อตกลงการลงนามร่วมกันเป็นเวลา 10 ปี

ทางด้าน คอสโม ออยล์ มีเป้าหมายจัดหา SAF ภายในปี 2573 ให้ได้ปีละ 300,000 กิโลลิตร ดังนั้นความร่วมมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับบางจากฯ ครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มอุปทานการจัดหา SAF ให้หลากหลายมากขึ้น สอดคล้องกับเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ทั้งผลิตด้วยตนเองและร่วมมือกับแหล่งผลิตในต่างประเทศ

รวมถึงทั้ง 2 บริษัทต่างแสดงความมุ่งมั่นจะเดินหน้าศึกษาวิจัยเรื่องที่สนใจร่วมกันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ได้มาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ ภายใต้วิสัยทัศน์ร่วมกันผลักดันความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน และการศึกษาที่หลากหลายเพื่อเร่งกระบวนการสำคัญลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศควบคู่กันไปด้วย

นายปฏิวัติ กล่าวว่า การลงนามกรอบความตกลงการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน ถือเป็นก้าวสำคัญในการเป็นพันธมิตรระหว่างบางจากฯ กับคอสโมออยล์ ในการต่อยอดความร่วมมือใกล้ชิดกันยาวนานกว่าทศวรรษ จนเกิดเป็นรูปธรรมจากความทุ่มเทของสององค์กรมุ่งสู่อนาคตผลิตพลังงานสะอาดยิ่งขึ้น ทางบางจากฯ ได้บุกเบิกเชิงกลยุทธ์ผลิตและจำหน่าย SAF จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมพลังงานสีเขียวผลิต SAF ให้ได้ปริมาณวันละ 1,000,000 ลิตร จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ประมาณปีละ 80,000 ตัน เป็นไปตามเป้าหมายของกลุ่มบางจากที่จะทำให้ภายในปี 2573 จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน และภายในปี 2593 และภาปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้

มิสเตอร์ซูซูกิ กล่าวว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมพลังงานทั่วโลกกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนผ่านพลังงานและการเร่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ทั้งคอสโม ออยล์ และบางจาก ตระหนักถึงวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจึงได้ประกาศเป้าหมายร่วมลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ภายในปี 2050 จึงเกิดความร่วมมือในระดับโลกด้วยการทำข้อตกลงร่วมดังกล่าว เป็นขั้นตอนสำคัญการสร้างสังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งจะไม่จำกัดเพียงเรื่อง SAF เท่านั้น หวังจะร่วมมือเพิ่มเติมด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และจะผสานพลังสร้างสรรค์สังคมให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นต่อไป

สำหรับพิธีลงนามดังกล่าว มีทั้งผู้บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และบริษัทคอสโม ออยล์ และได้รับเกียรติจาก นายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ อัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วมและกล่าวแสดงความยินดี พร้อมกับกล่าวถึงความร่วมมือเป็นพันธมิตรของทั้ง 2 บริษัท จะเป็นตัวอย่างชัดเจนของความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งทางสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญส่งเสริมปูทางสู่อนาคตความยั่งยืนโดยให้ความสำคัญกับนวัตกรรมควบคู่กันไป

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen