บางจากโชว์ 5 ปี “มูลนิธิใบไม้ปันสุข” ดึงเด็กไทยสร้างโลกยั่งยืน ดึง 52 จังหวัด 200 สถานศึกษาทำ 3 โปรเจ็กต์ ปั้นเด็กจิ๋วสู่เด็กแจ๋ว

  • “บางจาก” เปิดความสำเร็จ 5 ปี “มูลนิธิใบไม้ปันสุข”
  • ลุยสนับสนุนเด็กทั่วประเทศ 52 จังหวัด กว่า 15,000 คน ในเครือข่าย 200 สถานศึกษา
  • เร่งรณรงค์ด้านการเรียน ดูแลสิ่งแวดล้อม สร้างความยั่งยืนขานรับเป้าหมายองค์การสหประชาชาชาติ
  • ผนึกพันธมิตร SCGC ต่อยอด 3 โครงการใหญ่ “อ่านเขียนเรียนสนุกปั้นเด็กจิ๋วเป็นเด็กแจ๋ว-ปัน สุข จูเนียร์-โซลาร์ปันสุข”
  • เปิดให้ใช้คะแนนบางจากร่วมบริจาคหนุนทุกกิจกรรม

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ประสบความสำเร็จในโอกาสก่อตั้ง “มูลนิธิใบไม้ปันสุข” ครบรอบ 5 ปี ในการทำโครงการคืนประโยชน์สู่สังคมด้านพัฒนาการศึกษา สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตเยาวชนไทยตอบสนองเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Sustainable Development Goals เป้าหมายที่ 4 Quality Education ที่ได้ทำกิจกรรมเพื่อเด็กและเยาวชนมาตั้งแต่ปี 2560 ผ่านโครงการต่าง ๆ ตลอด 5 ปีโดยบางจากฯ ได้นำมูลนิธิใบไม้ปันสุข สร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนและสังคมไทยมาตลอดด้วยเงินเริ่มต้นจัดตั้งมูลนิธิกว่า 5 ล้านบาท ทำกิจกรรมส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ของเยาวชนด้านการศึกษา การพัฒนาทักษะ สร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านโครงการต่าง ๆ โดยให้เด็กได้เรียนรู้และลงมือทำด้วยตนเอง

อาทิ โครงการอ่านเขียน เรียนสนุก ปั้นเด็กจิ๋ว เป็นเด็กแจ๋ว ที่มุ่งฝึกทักษะการอ่าน เขียน อันเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการศึกษา และ โครงการรักษ์ ปัน สุข จูเนียร์ จัดตั้ง 8 สถานีเรียนรู้ เพื่อปลูกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เพื่อจัดการขยะ  ร่วมกับสถานศึกษาทั่วประเทศ 52 จังหวัด เครือข่ายสถานศึกษาเกือบ 200 แห่ง มอบโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เยาวชนไปแล้วกว่า 15,000 คน

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 บางจากประกาศเป้าหมายขับเคลื่อน “มูลนิธิใบไม้ปันสุข” เดินหน้าผลักดันคุณภาพชีวิตเยาวชนไทยต่อเนื่องอย่างเป็นรูปธรรมผ่าน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการอ่านเขียนเรียนสนุก  ปั้นเด็กจิ๋วเป็นเด็กแจ๋ว2.โครงการรักษ์ ปัน สุข จูเนียร์ และ 3.โครงการโซลาร์ปันสุข ให้ผู้คนรู้จักกว้างขวางขึ้น ควบคู่การประชาสัมพันธ์มูลนิธิใบไม้ปันสุขให้รู้จักเป็นวงกว้างมากขึ้น รวมถึงเชิญชวนผู้สนใจทั่วไปร่วมสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิฯ ผ่านการบริจาครูปแบบต่าง ๆ ทั้งดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ไลน์ บริจาคคะแนนสมาชิกบัตรน้ำมันบางจาก และรับบริจาคผ่าน กล่องปันสุข พร้อมกล่องบริจาคในร้านอินทนิลด้วย

นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ประธานมูลนิธิใบไม้ปันสุข กล่าวว่า  มูลนิธิใบไม้ปันสุข เริ่มดำเนินงานเมื่อปีปี 2560 ด้วยวิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยการเรียนรู้และลงมือทำเพื่อให้เยาวชนอ่านออกเขียนได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดี” เริ่มจากเป็นรากฐานการศึกษา ให้ความสำคัญให้เด็ก ๆ อ่านออก-เขียนได้ สร้างความยั่งยืนทุก ๆ ด้าน หลังจากนั้นจึงเริ่มพัฒนาโครงการอื่นตามมา เพื่อพัฒนาทักษะและพฤติกรรมที่จำเป็นต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน นำไปสู่จุดหมายปลายทาเรื่องการสร้างสังคมที่มีความสุข

ทางมูลนิธิฯ ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรที่มีความเชื่อ หลักการ วิธีทำงาน ที่คล้ายกัน กระทั่งสามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้สมบูรณ์แบบขึ้น ได้แก่ ทุ่งสักอาศรม บมจ. เอสซีจี เคมิคอลส์ และมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ ทำให้ตลอด 5 ปีนี้ จึงมีความเชี่ยวชาญและพัฒนากิจกรรมด้านการศึกษาเพื่อต่อยอดงานร่วมกับพันธมิตรได้อย่างน่าสนใจและแข็งแรงขึ้น เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 เป็นวันเยาวชนแห่งชาติ จึงใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ทั้ง 3 โครงการ จึงได้เชิญชวนสนับสนุนกิจกรรมของมูลนิธิฯ ผ่านการบริจาคในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการดาวน์โหลดสติ๊กเกอร์ไลน์ การบริจาคคะแนนบัตรสมาชิกบางจาก และการรับบริจาคที่กล่องปันสุขในร้านอินทนิล ไปพร้อม ๆ กัน

นางกลอยตา ณ ถลาง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน กล่าวว่าบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า บางจากเน้นให้ความสำคัญเรื่องการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่การดำเนินธุรกิจมาตลอดเกือบ 40 ปี รวมถึงการก่อตั้ง “มูลนิธิใบไม้ปันสุข” ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมระดับประเทศและกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ รวมทั้งการสร้างรากฐานของความยั่งยืนคือการพัฒนาเยาวชนทั้งในด้านการศึกษาและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ หรือ UN Sustainable Development Goals เป้าหมายหลักที่ 4 Quality Education กับเป้าหมายที่ 13 Climate Action การปลูกฝังจิตสำนึกและพฤติกรรมที่ดีด้านสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืนและนโยบายชาติตามโมเดล BCG Economy โดยมีคณะกรรมการมูลนิธิฯ เป็นผูแนะนำแนวทางการทำงาน ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานพันธมิตรมากมาย และมีผู้บริหารกับเพื่อนพนักงานกลุ่มบริษัทบางจาก ทำหน้าที่ให้คำแนะนำช่วยสนับสนุนโครงการต่าง ๆ หลากหลายรูปแบบสละเวลามาร่วมเป็นพี่เลี้ยงอาสาติดตามความคืบหน้าโครงการสอคล้องตามวัฒนธรรมของบางจากคือ ‘เป็นคนดี มีความรู้ เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น’

สำหรับบางจากและมูลนิธิฯ ประสบความสำเร็จอย่างภาคภูมิใจที่โครงการ “อ่านเขียนเรียนสนุก” ของมูลนิธิใบไม้   ปันสุข คว้ารางวัลชนะเลิศระดับภูมิภาค Asia Responsible Enterprise Awards (AREA) 2021 ประเภทInvestment in People พร้อมทั้งเข้ารอบสุดท้ายรางวัลระดับโลก S&P Global 2020 ประเภท Corporate Social Responsibility Award – Targeted ตอกย้ำถึงความสำเร็จอันโดดเด่นของโครงการด้านความรับผิดชอบ ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายมุ่งมั่นผลักดันโครงการดี ๆ เพื่อช่วยกันยกระดับคุณภาพชีวิตของเยาวชนไทยต่อไป

ทางด้านสิ่งแวดล้อม มูลนิธิใบไม้ปันสุข ได้ร่วมกับ บริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC และกลุ่มบริษัทบางจาก ทำโครงการ “รักษ์ ปัน สุข จูเนียร์” ปลูกจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจพอเพียงและสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) จากสิ่งรอบตัวผ่าน 8 สถานีเรียนรู้ ได้แก่ สถานีธนาคารขยะ สถานีกล่องนม-ถุงนมกู้โลก สถานีน้ำมันพืชใช้แล้ว สถานีใบไม้ปันสุข สถานีเรือนวัสดุและหลัก 3R สถานีพอ พัก ผัก สถานีน้ำหมักชีวภาพ และสถานีถังหมักรักษ์โลก

พร้อมทั้งตั้งความหวังสานต่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้าน Climate Action นำพาสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ซึ่งในช่วง 7 เดือนแรก หลังดำเนินงานกับโรงเรียน 35 แห่ง ได้คัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลแล้วกว่า 6,000 กิโลกรัม ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 17,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า  

นายกฤษดา เรืองโชติวิทย์  ผู้อำนวยการสำนักงาน ESG   บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC กล่าวว่า SCGC ให้ความสำคัญกับเรื่อง Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน อย่างต่อเนื่องโดยได้ผนวกกับการดำเนินธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทานเล็งเห็นว่ากุญแจสำคัญที่จะสร้างความยั่งยืนได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปลูกฝังจิตสำนึก และสร้างพฤติกรรมในการหมุนเวียนทรัพยากรกลับมาใช้ให้คุ้มค่าสูงสุด จึงร่วมมือกับมูลนิธิใบไม้ปันสุขและกลุ่มพันธมิตรในการดำเนินโครงการรักษ์ ปัน สุข จูเนียร์ ช่วง 7 เดือนแรกปีนี้มีโรงเรียนเข้าร่วมกว่า 18 จังหวัด ได้ศึกษาวิจัยเพื่อทราบพฤติกรรม ความคิดเห็นและกระบวนการจัดการขยะของโรงเรียน นำมาสู่การระดมความคิดกำหนดประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ออกแบบการทำงาน และพัฒนาต่อยอดร่วมกัน โดยมีผู้บริหารและนักเรียนกว่า10,635 คน คัดแยกขยะเพื่อรีไซเคิลแล้วกว่า 6,000 กิโลกรัม ช่วยลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 17,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

เป้าหมายในอนาคต จะเร่งส่งเสริมให้โรงเรียนฯ รวบรวมข้อมูล และเข้าร่วมโครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS PROJECT) ขององค์การจัดการก๊าซเรือนกระจกหรือ อบก. ซึ่งจะให้ความรู้เรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดการขยะอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อนำไปถ่ายทอดให้แก่เยาวชนต่อไป

ปี 2565 ได้สร้างเพิ่มอีกโครงการในชื่อ “โซลาร์ปันสุข” มุ่งส่งเสริมคุณภาพชีวิตเยาวชนอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการสร้างแหล่งเรียนรู้พลังงานทดแทนในภาคเกษตรกรรม ด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และต่อยอดองค์ความรู้จากโรงเรียนสู่ชุมชน โดยมูลนิธิใบไม้ปันสุข ร่วมกับ มูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ พันธมิตรผู้คร่ำหวอดในวงการเทคโนโลยีการศึกษา เฟ้นหาโรงเรียนที่มีผลงานด้านการเกษตรและการพัฒนาชุมชนรอบข้าง เพื่อสนับสนุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ขนาดเล็ก พร้อมถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ทางการเกษตร หวังยกระดับคุณภาพชีวิตเยาวชนและสังคมไทย พร้อมตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติตามเป้าหมายที่ 13 Climate Action และเป้าหมายที่ 7 Affordable and Clean Energy

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen