นายกฯ เปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ปี 66 ชี้อย่าให้เกิดการบูลลี่ในโรงเรียน ครูอาจารย์ต้องดูแล

  • ขอเด็กไทยตระหนักรู้หน้าที่
  • เคารพกฎบ้านเมือง
  • ย้ำในโรงเรียนต้องสร้างความเรียบร้อย

วันที่ 14 ม.ค. 2566 เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ เขตดุสิต กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 มี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นำคณะผู้บริหารให้การต้อนรับและกล่าวรายงาน โดยทันทีที่มาถึงนายกฯชมการแสดงของวงโยธวาทิต ลูกเสือกองเกียรติยศเข้าแถวต้อนรับนายกฯ ก่อนที่นายกฯ จะสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

จากนั้นนายกฯ ชมการแสดงต่างๆ ของเยาวชนภายในงาน ก่อนกล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ซึ่งทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติของพวกเรา เป็นโอกาสอันดีที่ได้มาพบกันกับลูกหลานไทยซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ได้เห็นรอยยิ้มเสียงหัวเราะ ความพึงพอใจในการที่มาพบกัน ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เราจัดให้ทุกคนมีความสุข ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง และเด็กด้วย เป็นกิจกรรมของครอบครัว ซึ่งทั่วประเทศมีการจัดงานขึ้นอย่างพร้อมเพียงกัน หลายอย่างให้ทั้งความสนุก ความรู้นอกตำรา นอกโรงเรียน เสริมประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจและเป็นความทรงจำดีๆ ให้เกิดความประทับใจในวัยเด็ก

คำขวัญที่ตนได้มอบให้ปีนี้คือ รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี ความมุ่งหมายเพื่อให้เด็กเยาวชนได้ตระหนักรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของตัวเอง รวมทั้งความคาดหวังของสังคมที่มีต่ออนาคตของชาติ รวมถึงครู อาจารย์ ผู้ปกครอง บุคลากรทางการศึกษาทุกคน ที่มีส่วนสำคัญในการปลูกฝังทัศนคติและปัญญา เป็นเกราะคุ้มกันลูกหลานของเราให้รอดพ้นจากสิ่งที่ผิดและความเชื่อที่ผิดๆ รู้เท่าทันสื่อออนไลน์ต่างๆ ในสังคมที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนในที่นี้น่าจะรู้จักเพลงหน้าที่เด็ก ซึ่งแต่งมานานแล้วเนื้อหายังใช้ได้อยู่ ถึงแม้วันนี้จะมีเรื่องดิจิตอล แต่เราก็เสริมเติมได้เพราะครอบคลุมไปทั้งหมดแล้ว

นายกฯ กล่าวว่า คำนิยามที่สำคัญที่เด็กดีจะเติบใหญ่เป็นพลเมืองดี คือการขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์ กตัญญู มัธยัสถ์ กระตือรือร้น และศึกษาสิ่งใหม่ๆ รู้จักหน้าที่ของตน ตนหวังว่าเด็กทุกคนจะมีวินัย ทั้งวินัยต่อตนเองและสังคมในการเคารพกฎระเบียบกติกาของบ้านเมือง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข นอกจากคำว่าหน้าที่และวินัยแล้ว ซึ่งเป็นรากฐานในการดำเนินชีวิต เด็กทุกคนยังต้องใส่ในการทำความดีด้วยกาย ด้วยใจ ด้วยวาจาคิดดี พูดดี ทำดี และเป็นลูกที่ดีด้วย การเชื่อฟังพ่อแม่ช่วยทำงานบ้านช่วยตัวเองไม่เป็นภาระกับใครที่บ้านเป็นสิ่งที่ดี เชื่อฟังครูอาจารย์และเป็นเพื่อนที่ดีด้วยการทำเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและสังคม

นายก ในโรงเรียนต้องสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้มากที่สุด อย่าให้มีการบูลลี่ในโรงเรียน ครูอาจารย์ต้องดูแล เพื่อให้เด็กคิดดีทำในสิ่งที่ถูกต้อง วันนี้เราต้องรักษาความสงบเรียบร้อยทุกอย่างไว้ให้นานที่สุด เพราะเราต้องเดินหน้าไปข้างหน้า เราหยุดไม่ได้ ประเทศเราหยุดไม่ได้ ต้องเดินไปข้างหน้าด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ขอให้ทุกคนเกิดความภาคภูมิใจในประเทศไทยของเราให้ทุกคนช่วยกันทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยความสงบเรียบร้อย มีเสถียรภาพ ทุกอย่างทุกประการ สิ่งใดไม่ดีช่วยขจัด ช่วยแก้ไข ร่วมมือกันแก้ปัญหา ไม่ให้เกิดความแตกแยก เพราะไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย ไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น

จากนั้นนายกฯ พร้อม บัวขาว บัญชาเมฆ นักมวยชื่อดัง ได้เดินเยี่ยมชมบูธต่างๆ พร้อมร่วมแจกของขวัญให้เด็ก โดยเด็กๆ ให้กำลังใจนายกฯ สู้ๆ พล.อ.ประยุทธ์ จึงกำมือไปที่หัวใจพร้อมชูมือ บอกว่าสู้ๆ ขณะบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เด็กๆ มาขอถ่ายภาพเซลฟี่กับนายกฯ

ต่อมาเมื่อเวลา 09.45 น. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2566 พร้อมกับคณะรัฐมนตรี โดยนายกฯ ได้กล่าวถึงคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2566 ที่ว่า “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” ซึ่งการรู้หน้าที่ คือ หน้าที่ที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นอกจากนี้เยาวชนต้องมีวินัยต่อตนเองและต่อสังคม เพราะการมีวินัยจะช่วยให้ชีวิตประสบความสำเร็จ และช่วยให้ทุกคนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ส่วนการใฝ่ความดี คือการฝึกตนเองให้คิดดี คิดบวก คิดเพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว

ภายหลังพิธีเปิดงานฯ นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมกิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ ณ โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ได้แก่ Theme : Thainess & Soft Power ประกอบด้วย กิจกรรมส่งเสริมมารยาทไทย ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ผลงานวิจัยวัฒนธรรมอาหาร 7 ลุ่มน้ำ และการสาธิตทำอาหารของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กิจกรรม Soft Power เช่น การแต่งกายแบบไทย กีฬามวยไทย อาหาร และภาพยนตร์.