นายกรัฐมนตรีเปิด”ท่าเรือปากเมง”มั่นใจเป็นประตูสู่อันดามัน รองรับนักท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศ

วันนี้(16 พ.ย.)ที่ท่าเรือปากเมง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิด “ท่าเรือปากเมง เปิดประตูสู่อันดามัน” โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมเจ้าท่า นายกริชเพชร ชัยช่วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมพิธี ในวันที่ 16 พ.ย. 64 ณ ท่าเรือปากเมง ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง

โดยนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่่าวว่า กรมเจ้าท่า (จท.) ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างท่าเรือปากเมง จังหวัดตรัง เพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย ในการสนับสนุนการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน รวมทั้งต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวทางทะเลฝั่งอันดามัน และการกลับมาของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตามนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล ซึ่งท่าเรือปากเมง จังหวัดตรัง เป็นท่าเรือเพื่อการท่องเที่ยวและการเดินทางทางน้ำที่สำคัญในจังหวัดตรัง เรือส่วนใหญ่เป็นเรือรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากหาดปากเมงไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ในหมู่เกาะทะเลตรัง อาทิ เกาะมุก เกาะรอก เกาะเชือก เกาะไหง เกาะกระดาน และเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล เป็นต้น 

รวมทั้งยังสามารถเชื่อมต่อไปที่เกาะลันตา เกาะพีพี และหาดอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ท่าเรือปากเมงมีอายุการใช้งานมากกว่า 20 ปี ทำให้มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้บริการ คค. จึงมอบหมายให้ จท. ศึกษาออกแบบเพื่อปรับปรุงท่าเรือปากเมงให้มีความมั่นคง แข็งแรง สวยงาม มีรูปแบบที่เหมาะสม มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับทุกคนอย่างเท่าเทียม และสอดคล้องกับการใช้งานสามารถรองรับเรือเข้าเทียบท่าได้อย่างปลอดภัย และเพิ่มพื้นที่การใช้สอยบริเวณด้านหลังท่าเรือให้มีความครบถ้วนตามความต้องการของนักท่องเที่ยว 

อย่างไรก็ตามในปี 62 ก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ท่าเรือปากเมงมีปริมาณนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 67,000 คนต่อปี และผลการศึกษาคาดการณ์ว่าหลังจากเปิดให้บริการท่าเรือปากเมงจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นเป็น 90,000 คนต่อปี ซึ่งการเปิดท่าเรือปากเมงในวันนี้ เป็นการตอบรับนโยบายการเปิดประเทศและส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดตรังเพื่อรองรับการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นของประชาชนในท้องถิ่น เชื่อมโยงการเดินทางในอนาคตด้วยการขึ้นเครื่องบิน ต่อรถ ลงเรือ ไปท่องเที่ยวตามหมู่เกาะต่าง ๆ ในจังหวัดตรัง ตามแผนโครงการเส้นทางเดินเรือ “วงแหวนอันดามัน” เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว ในอนาคต รวมทั้งสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ การท่องเที่ยว ตลอดจนร้านค้าชุมชน คนในพื้นที่

อย่างไรก็ตามในปี 62 ก่อนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ท่าเรือปากเมงมีปริมาณนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 67,000 คนต่อปี และผลการศึกษาคาดการณ์ว่าหลังจากเปิดให้บริการท่าเรือปากเมงจะสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นเป็น 90,000 คนต่อปี ซึ่งการเปิดท่าเรือปากเมงในวันนี้ เป็นการตอบรับนโยบายการเปิดประเทศและส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดตรังเพื่อรองรับการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นของประชาชนในท้องถิ่น เชื่อมโยงการเดินทางในอนาคตด้วยการขึ้นเครื่องบิน ต่อรถ ลงเรือ ไปท่องเที่ยวตามหมู่เกาะต่าง ๆ ในจังหวัดตรัง ตามแผนโครงการเส้นทางเดินเรือ “วงแหวนอันดามัน” เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว ในอนาคต รวมทั้งสามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ การท่องเที่ยว ตลอดจนร้านค้าชุมชน คนในพื้นที่

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมมีแผนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมในพื้นที่ จังหวัดตรัง เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางและเพิ่มศักยภาพระบบคมนาคม ประกอบด้วย ทางหลวงหมายเลข 404 ตอน บ. นา – บ. สามแยก ขยายเป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 21 กิโลเมตร ซึ่งจะสามารถเปิดใช้งานในปี 66  ,ทางหลวงหมายเลข 419 ตอน บ. นาขา – บ. ควนปริง ขยายเป็น 4 ช่องจราจร ระยะทาง 7 กิโลเมตร ซึ่งจะสามารถเปิดใช้งานในปี 65 และยังมีแผนดำเนินงานขยายช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร ในปี 66 – 69 ได้แก่ 1) ทางหลวงหมายเลข 4046 ตอน ตรัง – บ. โคกโตน ระยะทาง 21 กิโลเมตร  2) ทางหลวงหมายเลข 419 ตอน บ. ควนปริง – บ. ควน ระยะทาง 6 กิโลเมตร  3) ทางหลวงหมายเลข 419 ตอน บ. ควน – บ. โพธิ์ ระยะทาง 11 กิโลเมตร  4) ทางหลวงหมายเลข 4046 ตอน บ.โคกโตน – บ. ควนกุน ระยะทาง 23 กิโลเมตร 5) ทางหลวงหมายเลข 419 ตอน บ. โพธิ์ – ตอน บ. นาขา ระยะทาง 8 กิโลเมตร 

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอจากนั้นกระทรวงคมนาคมยังแผนงานโครงการพัฒนาถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านอันดามัน เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และความสะดวกปลอดภัยในการเดินทาง  รวมถึงการพัฒนาสนามบินตรัง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถรองรับจำนวนผู้โดยสารและจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้เพิ่มขึ้น โครงสร้างพื้นฐานด้านการบินที่ได้มาตรฐานสากล โดย เพิ่มความสามารถรองรับผู้โดยสารจาก 1.7 ล้านคนต่อปี เป็น 3.4 ล้านคนต่อปี โดยมีวงเงินลงทุน 1,070 ล้านบาท ปัจจุบันการดำเนินงานมีความก้าวหน้า  25.30 %คาดว่าสามารถเปิดให้บริการภายในปี 66 

นอกจากนั้นยังมีการก่อสร้างเสริมความแข็งแรงทางวิ่ง ทางขับและลานจอดอากาศยาน พร้อมระบบไฟฟ้าท่าอากาศยาน สามารถรองรับการจอดอากาศยานขนาด B737 เป็น 14 ลำ ในเวลาเดียวกัน วงเงินลงทุน 678.40 ล้านบาท ปัจจุบันการดำเนินงานมีความก้าวหน้ 91.61% คาดว่าสามารถเปิดให้บริการภายในปี 66 รวมถึงการก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่ง เป็น 45 x 2,990 เมตร พร้อมระบบไฟฟ้าท่าอากาศยาน เพื่อความปลอดภัยของอากาศยาน วงเงินลงทุน 1,775.72 ล้านบาท ปัจจุบันลงนามในสัญญาแล้วเมื่อเดือนกันยายน 64 คาดว่าสามารถเปิดให้บริการภายในปี 67