ธุรกิจกายภาพบำบัดมาแรงรับออฟฟิศซินโดรม จัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้นในช่วง 5 เดือนแรกปีนี้

Close up of hands typing on laptop. Night work concept.
  • ตอบโจทย์ความนิยมด้านสุขภาพในปัจจุบัน
  • ทางเลือกใหม่ของคนวัยทำงาน

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงานถึงแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจกายภาพบำบัด ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยจากสถิติตั้งแต่ปี 2563 พบว่ามีการจัดตั้งธุรกิจประเภทนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชื่อมั่นว่าหน่วยงานไทยพร้อมรองรับการเติบโตธุรกิจกายภาพบำบัดตามกระแสความตื่นตัวเรื่องสุขภาพ

ในปัจจุบันประชากรไทยวัยทำงาน อายุระหว่าง 25-54 ปี มีความใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากพฤติกรรมในการทำงาน โดยเฉพาะการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน และไม่ขยับปรับเปลี่ยนอิริยาบถ ส่งผลให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) ดังนั้น คลินิกกายภาพบำบัดจึงเป็นทางเลือกใหม่ของคนวัยทำงาน เพื่อรักษาและบำบัดอาการออฟฟิศซินโดรม รวมถึงผู้ที่มีอาการบาดเจ็บทางกล้ามเนื้อและกระดูกที่อาจเกิดจากการเล่นกีฬา หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่าง ๆ โดยใช้เทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย มีมาตรฐาน รักษาอาการเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ปี 2566 มีการจัดตั้งธุรกิจกายภาพบำบัด รวม 22 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 31.40 ล้านบาท

สำหรับสถิติข้อมูลปัจจุบันของธุรกิจกายภาพบำบัดที่ดำเนินกิจการในประเทศไทย ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 มีจำนวน 175 ราย มูลค่าทุน 1,665.55 ล้านบาท โดยมีสถานประกอบการส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 91 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 1,284.31 ล้านบาท รองลงมา คือ ภาคกลาง 33 ราย ภาคเหนือ 15 ราย ภาคใต้ 13 ราย ภาคตะวันออก 11 ราย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 ราย  และภาคตะวันตก 4 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก (S) มีการคาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีการจัดตั้งธุรกิจกายภาพบำบัดเพิ่มมากขึ้น รวมถึงศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาขนาดใหญ่ในประเทศไทย เพื่อรองรับการให้บริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจร และกระแสความนิยมของธุรกิจกายภาพบำบัดที่มีเพิ่มมากขึ้น