ทำเพื่ออนาคตของชาติ “อนุทิน” ปิ๊งไอเดีย เสนอ ครม. ปรับเกณฑ์เงินกู้ยืม “กยศ.” ให้ผู้เรียนเป็นผู้ค้ำประกันเอง

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (17 พ.ย.2563) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้แสดงความเป็นห่วงกรณีปัญหาลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยหารือที่ประชุม ครม.เพื่อหาแนวทางปรับหลักเกณฑ์ยกเลิกผู้ค้ำประกันเนื่องจากการกู้ยืมดังกล่าวเป็นการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ ไม่ได้เป็นการลงทุนเพื่อแสวงหากำไร อีกทั้งส่วนใหญ่ผู้ค้ำประกันก็คือญาติพี่น้อง ซึ่งประสบความเดือนร้อนไม่ต่างกัน ส่งผลให้ผู้ค้ำประกันต้องแบกรับภาระในทางคดีความจากการถูกฟ้องร้อง หลายคนต้องถูกยึดทรัพย์ ส่งผลให้บางรายมีความต้องการที่จะกู้เงินยืมเรียน แต่ไม่สามารถหาผู้ค้ำประกันตนเองได้ 

ดังนั้นเพื่อเพิ่มโอกาสทางการกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา และหาทางออกให้กับกลุ่มผู้ค้าประกันในปัจจุบันและอนาคต รัฐจึงควรกำหนดหลักเกณฑ์การกู้ โดยปลดผู้ค้ำประกัน และไม่มีผู้ค้ำประกันต่อไป แต่ควรให้นักเรียน นักศึกษาได้เป็นผู้ค้ำประกันตนเอง โดยที่ประชุม ครม.รับทราบ และมอบหมายให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว. คลัง ไปพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ กยศ.ในสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาทิ การลดเบี้ยปรับ 7.5% เหลือ 0.5% ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค.นี้ รวมถึงการลดเบี้ยปรับให้กับผู้กู้ยืมที่ปิดบัญชี และผู้กู้ยืมที่ชำระให้เป็นปกติ 80% และ 75% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ยังมีการพักชำระหนี้ให้กับผู้กู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2 ปี การผ่อนผันชำระหนี้ ระงับการเรียกหนี้ งดการขายทอดตลาดซึ่งจะสิ้นสุดในสิ้นปีนี้ และชะลอการบังคับคดี สิ้นสุดในวันที่ วันที่ 31 ธ.ค. 2564

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะนักเรียน นิสิตนักศึกษา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ จึงมีมาตรการต่าง ๆ ออกมาช่วยเหลือ รวมถึงเตรียมปรับหลักเกณฑ์การกู้ยืม กยศ.เพื่ออำนวยความสะดวก และบรรเทาความเดือดร้อนให้ได้มากที่สุด