ทางหลวง​เพิ่มช่องทางพิเศษเร่งระบายรถออกต่างจังหวัด

กรมทางหลวง​ เร่งเพิ่มช่องทางพิเศษบนถนนสายหลัก ถนนพหลโยธิน, ถนนมิตรภาพ​ และถนนหลวงสาย 304​ เพื่อเร่งระบายการจราจร เที่ยวขาออกจากกรุงเทพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลังนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ บินตรวจสภาพการจราจรในเส้นทางทาง ถนนพหลโยธิน ถนนมิตรภาพ และ และทางหลวง​304 ปักธงชัย-กบินทร์บุรี แล้วพบปัญหาการเคลื่อนตัวช้า ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ กรมทางหลวง เพิ่มช่องทางจราจรเพื่อเร่งระบายจราจร

โดยนายสราวุธ​ ทรงศิวิไล​ อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวถึงการเปิดช่องทางพิเศษ​ หรือเพิ่มเลน ให้บนถนนสายหลักเหล่านี้​ ในเส้นทางขาออกจากกรุงเทพฯ​ โดยใช้ช่องจราจรของถนนฝั่งขาเข้าเพื่อเร่งระบายการจราจร​ ลดการสะสมของรถนั้น​ ประกอบด้วย​ ถนนพหลโยธิน เปิดช่องทางพิเศษ เพิ่มอีก 3 ช่อง สวนทางขึ้นไป รวมเป็นช่องทางขาออก 8 ช่องจราจร โดยเปิดเข้าจาก กม.58 จากนั้น ให้ออกจากช่องทางพิเศษที่ กม.85 (สำหรับสองช่องซ้าย) และ ออกอีกทีปลายทาง ที่ กม.101+800 ก่อนถึงทางต่างระดับสระบุรี (กม.106+500) โดยจะดำเนินการไปจนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย และดูปริมณรถขาเข้าให้เหมาะสม

ถนนมิตรภาพ ปริมาณรถหนาแน่นตลอดเส้นทางจากสระบุรี ถึง นครราชสีมา​ แต่ยังคงเคลื่อนตัวได้ต่อเนื่อง ไม่ติดขัดหยุดนิ่งมีชะลอตัวในช่วงขึ้นเนินเขาจันทร์ มวกเหล็ก ลำตะคลอง พอพ้นแล้วคล่องตัวทำความเร็วได้
กรมทางหลวงได้ เปิดช่องทางพิเศษ เป็นช่วง ๆ ตอนที่ปริมาณรถหนาแน่น และปิดช่องทางพิเศษเมื่อการจราจรคลี่คลาย​ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยอย่างในเส้นทางเป็นหลัก

ทางหลวง​สาย​ 304​ (ทล.304) อ.ปักธงชัย-อ.กบินทร์บุรี ผ่าน อ.วังน้ำเขียว และเส้นทางเชื่อมผืนป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และทับลาน รถมีปริมาณหนาแน่น​ โดย ทิศทางจากกบินทร์บุรี มาวังน้ำเขียว โดยเฉพาะในช่วงที่เป็นทางลาดชัน ปริมาณรถมาก เคลื่อนตัวได้ช้า​ ในส่วนนี้ ตำรวจทางหลวง ร่วมกับแขวงทางหลวงปราจีนบุรี และนครราชสีมา จัดการจราจรโดยเปิดช่องทางพิเศษ เพื่อระบายรถ พอพ้นช่วงวังน้ำเขียว รถโล่งจนถึงแยกปักธงชัย จ.นครราชสีมา​ ทั้งนี้ขอ แนะนำให้หลีกเลี่ยง ให้ใช้เส้นทาง ทล.2 ถนนมิตรภาพ จะสะดวกว่า

นายสราวุธ​ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้แขวงทางหลวง ใช้โดรนบินถ่ายสภาพการจราจร เพิ่มเติมจากที่ใช้กล้อง CCTV. กว่า 300 ตัว เพื่อวางแผนบริหารจัดการจราจร และเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ ผ่านทาง Application กรมทางหลวง “Thailand Highway Traffic” รวมทั้ง ได้เน้นย้ำกำชับ ทุกแขวงทางหลวง เรื่องการควบคุมไฟสัญญาณจราจร โดยต้องปล่อยรถให้เหมาะกับปริมาณรถ ห้ามไม่ให้เกิดการติดขัดที่ทางแยก โดยเฉพาะเส้นทางสายหลัก จัดเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ร่วมกับตำรวจจราจรในพื้นที่ ควบคุมจัดจังหวะไฟเขียวไฟแดงให้เหมาะสม