ททท.สู้เต็มที่ดันรายได้ท่องเที่ยวปีนี้ 3.38 ล้านล้านบาท

  • “ยุทธศักดิ์”ปลุกใจลูกน้องให้สู้เต็มที่
  • ขอแบ่งเงินกระตุ้นเศรษฐกิจมาช่วยเสริม
  • เอกชนเรียกร้องให้ต่อมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าVOA สิ้นสุด มี.ค.2563

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยในระหว่างเป็นประธานในการแถลงทิศทางการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวของ ททท. ปี 2563 ว่า ททท. ได้วางเป้าหมายเชิงการตลาดในปี 2563 ไว้อย่างชัดเจน ในการรักษาตำแหน่งประเทศที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวติดอันดับ 1 ใน 6 ของโลก สร้างรายได้รวมเพิ่มขึ้น 10% หรือประมาณ 3.718 ล้านล้านบาท และเพิ่มเป้าหมายด้านการสร้างความยั่งยืนทางการท่องเที่ยว ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุเป้าหมาย และสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

“เมื่อ ททท.ตั้งเป้ารายได้ปี 2563 ที่ 3.718 ล้านล้านบาท ขยายเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ 10% ก็แสดงว่าในปีนี้ต้องสร้างรายได้ให้ถึง 3.38 ล้านล้านบาท หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 9.5% จากปีที่ผ่านมา  ซึ่งททท.จะถือเป็นเป้าหมายในการทำงานและสู้อย่างเต็มที่ แม้กระทรวง ท่องเที่ยวและกีฬาจะประเมินว่า ในปีนี้จะมีรายได้ที่ 3.2 ล้านบาทขยายตัวแค่ 4.3 %ก็ตาม”

 อย่างไรก็ตาม ที่กระทรวงการคลังได้กันวงเงินสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ 100,000  ล้านบาท เพื่อให้รายได้ของปี 2562 เป็นไปตามเป้าหมาย ที่ททท. วางไว้ จึงขอเสนอ ให้จัดสรรงบประมาณ มาช่วยสนับสนุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ด้วย นอกจากนั้น มีข้อเสนอของภาคเอกชนให้รัฐบาลพิจารณาต่ออายุมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมตรวจลงตราหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa On arrival:VOA) คนละ 2,000 บาท ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค. 2562 ออกไปอีก 5 เดือนโดยให้สิ้นสุด 31 มี.ค. 2563

“รวมทั้งของวิงวอน คนไทยที่ออกไปเที่ยวนอกประเทศปีละ 10 ล้านคน ขอเพียงครึ่งหนึ่งหรือ 5 ล้านคน หันมา เที่ยวในประเทศเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็จะทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวของคนไทยที่เที่ยวในประเทศสูงขึ้น สามารถมาทดแทน รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ไม่ขยายตัวสูงเหมือน ปีก่อนๆหน้านี้ได้”