ททท.คุนหมิง ดึงจีนเที่ยวไทย ดันเศรษฐกิจอีสาน-เหนือ พุ่ง 4 ด่าน ปี’67 ชูขาย “New Ways to Amazing to Thailand” ทัวร์จีน 4 ตลาด

ททท.คุนหมิงนำจีนคุณภาพ 3 มณฑล เที่ยวทางบก ทำเศรษฐกิจภาคอีสาน ภาคเหนือของไทยคึกคัก 4 ด่าน หนองคาย ท่าลี่ ห้วยโก๋น เชียงของ

  • ปี’67 รุกขาย “New Ways to Amazing to Thailand” ล็อกเป้าเพิ่มรายได้นักท่องเที่ยวจีน 4 ตลาด
  • ทัวร์จีน 3 มณฑล ใช้เงินอุดหนุน ซอฟท์ เพาเวอร์ อาหาร ช้อปปิ้ง แตะ 1 แสนบาท/คน/ทริป

นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีนเปิดเผยว่า วางแผนส่งเสริมตลาดการขายท่องเที่ยวระหว่างสิงหาคม-ธันวาคม 2566 มีพื้นที่ดูแลรวม 3 มณฑล ได้แก่ยูนนาน กุ้ยโจว กว่างสี มีประชากรรวมกันประมาณ 137 ล้านคน ช่วงครึ่งหลังปี 2566 จะสร้างการรับรู้ต่อด้วยการเดินทางเข้าเมืองไทย คุนหมิงเป็นพื้นที่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทยได้หลากหลายวิธี ตั้งแต่ 1.การเดินทางทางอากาศโดยเครื่องบิน 2. “ทางบก -overland” ระหว่าง 3 เดือนนี้ สิงหาคม-ตุลาคม 2566 ได้รับโจทย์หลักจากททท.สำนักงานใหญ่ให้ช่วยกระตุ้นชาวจีนเข้าเมืองไทยเพิ่มทางบก โดยผ่านจากมลฑลยูนนานบริเวณด่านชายแดนโบฮาข้ามมายังบ่อเต็น (สสป.ลาว) แล้วเข้าประเทศไทยได้ไม่ต่ำกว่า 4 ด่าน 4 จังหวัด คือ ด่านหนองคาย จ.หนองคายด่านท่าลี่ จ.เลย ด่านห้วยก๋วน จ.น่าน ด่านเชียงของ จ.เชียงราย

ขณะนี้จีนนิยมท่องเที่ยวทางบกเข้าไทยด้วยรถยนต์และรถไฟความเร็ว โดยเน้นจุดขายโครงการ Amazing Thailand Amazing New Chapters ดังนั้น ททท.คุนหมิง จึงได้ขยายผลทำโครงการ “New Ways to Amazing to Thailand” นำจีนมาท่องเที่ยวไทยช่วงหน้าฝนนอกฤดูเดินทาง (low season) โดยร่วมกับบริษัทนำเที่ยวในยูนนาน 3 บริษัท ทำแพกเกจกระตุ้นตลอดเดือนสิงหาคมนี้ เจาะ 4 ตลาดหลัก

ตลาดที่ 1 กลุ่มครอบครัว และผู้สูงวัย หรือ Silver Age ทริปแรกเริ่มเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูงเข้าไทยแล้วตั้งแต่ 8 สิงหาคม 2566 มีจำนวน 75 คน พร้อมสื่อมวลชน กับผู้บริหารบริษัทนำเที่ยวจีน ทั้งหมด 86 คน ทริปละ 8-10 วัน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายชูวิทย์ ศิริเวชกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก ททท.เดินทางไปต้อนรับอย่างอบอุ่น

พร้อมทั้งเชิญชวนนักท่องเที่ยวจีนร่วมสัมผัสประสบการณ์ “วิถีถิ่นวัฒนธรรมอาหาร” พร้อมการแสดงต่าง ๆ อย่างประทับใจ ต่อจากนั้นจะเร่งกระตุ้นตลาดดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป

ตลาดที่ 2 นักกอล์ฟส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา หรือ Sport Tourism จัดทำโปรแกรมเสนอขายการเล่นกอล์ฟ และเดินทางไปยังท่องเที่ยวต่าง ๆ ใกล้สนามกอล์ฟแต่ละพื้นที่ได้ด้วย แพกเกจ 8-10 วัน/ทริป เดินทางโดยเครื่องบินตรงเข้ามายังกรุงเทพฯ เลือกเล่นกอล์ฟในกรุงเทพฯ ทำคอร์สสปาเพื่อสุขภาพ แล้วเดินทางไปเล่นกอล์ฟต่อยังภาคตะวันออก พัทยา ชลบุรี ระยอง

ตลาดที่ 3 กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวเมืองไทยซ้ำ ๆ หรือ Re-Visit Thailand ผู้บริหาร ททท.คาดหวังโดยตั้งโจทย์ให้ ททท.ในสาธารณรัฐประชาชนจีนทั้ง 5 สำนักงาน ได้แก่ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เฉินตู และคุนหมิง ร่วมกันนำจีนเที่ยวเมืองไทยตลอดปี 2566 ให้เกิน 5 ล้านคนขึ้นไป ขณะนี้จีนเดินทางเข้าไทยแล้ว มกราคม-ต้นเดือนสิงหาคมนี้ 1.935 ล้านคน ดังนั้นจะร่วมกันนำเข้านักท่องเที่ยวมาไทยให้ได้มากที่สุดล็อกเป้ากลุ่มศักยภาพสูงมาเป็นครอบครัวจะพักในไทย 10-20 วัน/ทริป ใช้จ่ายเฉลี่ย 60,000-100,000 บาท/คน/ทริป

ตลาดที่ 4 กลุ่มนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางครั้งแรก ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ด้วยตนเอง โดยลำพัง หรือมาพร้อมกับเพื่อน ๆ

นักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่จะเน้นความสะดวกสบาย ปลอดภัย แหล่งท่องเที่ยวจุดหมายปลายต้องสร้างประสบการณ์แปลกใหม่มีความหมายและคุณค่า (meaningful travel) โดยเฉพาะสินค้าท่องเที่ยว ซอฟท์ เพาเวอร์ 5F “Food อาหาร/Fashion-เครื่องแต่งกายไทย/Fight-กีฬาต่อสู้มวยไทย/Film-พื้นที่ถ่ายทำภาพยนตร์/Festival-เทศกาล”

ปี 2566 แนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนมาไทยจะยังคงเป็นกลุ่มศักยภาพสูงพร้อมใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้น โดยมีแรงกระตุ้นให้ใช้เงินรับประทานอาหารไทย ทำกิจกรรมกับประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ ๆ และช้อปปิ้งผลิตภัณฑ์สินค้าไทยนำกลับไปฝากญาติพี่น้องในจีน รวมทั้งนักท่องเที่ยวจีนส่วนใหญ่ยังได้นำเรื่องราวจากประสบการณ์ตรงไปบอกต่อกับชาวจีนคนอื่น ๆ เช่น ทริปแรกที่เดินทางมากับรถไฟความเร็วสูง ได้ลองรับประทานอาหารถิ่น ร่วมรำเซิ้งสนุกสไตล์อีสาน มีความถ้วนหน้า

ส่วน “เที่ยวบิน” ไป-กลับ หลัก ๆ จะมี 6 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย กรุงเทพฯ-คุนหมิง สัปดาห์ละ 2 เที่ยว แอร์เอเชีย คุนหมิงแอร์ไลน์ส ไชน่าอีสเทิร์น และลักกี้แอร์ รวมแล้วจะมีเที่ยวบินจากคุนหมิง หรือยูนนาน ทุกวัน จึงจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางต่อเนื่องได้ทุกวัน สำหรับการเดินทางช่วง “วันชาติจีน” เดือนตุลาคม นี้ ก็จะมีนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากเข้าไทยอย่างแน่นอน

ผอ.รุ่งทิพย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวในไทยกับตลาดจีนตามความนิยมปัจจุบัน อันดับ 1 กรุงเทพฯซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยว บริการ กิจกรรม ตอบโจทย์ครบทุกด้าน อันดับ 2 ภาคตะวันออก พัทยา ชลบุรี ระยอง ภูเก็ต กระบี่รวมแล้ว 2 อันดับแรก มีส่วนแบ่งตลาดจีนรวมกันมากถึง 70 % อันดับ 3 ภาคอีสาน กำลังเร่งโปรโมทอย่างเต็มที่ ขณะนี้ ททท.คุนหมิง ร่วมกับสถานกงศุลใหญ่ของไทยประจำคุนหมิง จัดเทศกาล Thailand Festival 2023 ระหว่าง 4-8 สิงหาคม 2566 ที่ห้างถงเต๋อ นครคุนหมิง โดยนำเสนอสัญลักษณ์ธีม “ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ของไทย 20 จังหวัดกับตลาดทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนทั้งหมดได้รู้จักเพิ่มมากขึ้น

โดยได้นำการแสดงศิลปะวัฒนธรรมอีสาน ร้านอาหารถิ่นแถบอีสานและทั่วเมืองไทย มาไว้ในงาน Thailand Festival 2023 รวมทั้งได้นำเสนอการเดินทางท่องเที่ยวทางอากาศของสายการบินต่าง ๆ เข้าสู่เมืองไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมตลอดงานมากถึง 300,000 คน สร้างการรับรู้ได้มากกว่า 10 ล้านคน-ครั้ง จึงจะเป็นโอกาสในการสร้างทางเลือกใหม่เที่ยวเมืองไทยในภาคอีสาน จากนั้นจะเพิ่มเส้นทางท่องเที่ยวภาคเหนือของไทยต่อยอดเข้าไปด้วย

ปี 2567 ททท.คุนหมิง ยังคงเดินหน้าขยายฐานนักท่องเที่ยวจีนตลาดหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 นักท่องเที่ยวเดินทางซ้ำ หรือ Re-Visit กลุ่มที่ 2 นักท่องเที่ยวใหม่ที่เพิ่งเลือกเดินทางมาไทยครั้งแรก หรือ First Visit กลุ่มที่ 3 นักท่องเที่ยวเชิงกีฬา กอล์ฟ ดำน้ำ กลุ่มที่ 4 ครอบครัวขนาดใหญ่

ส่วนโครงการที่จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนในพื้นที่คุนหมิง “New Ways to Amazing to Thailand” ต่อยอดการท่องเที่ยวทางบก/Overland ทั้งคาราวานรถยนต์และรถไฟความเร็วสูง วางแผนจัดกิจกรรมช่วงเมษายน 2567 เดินทางเที่ยวงานเทศกาลประเพณีขึ้นชื่อของไทย โดยจะนำเข้ามาทั้ง 4 ด่าน ด่านเชียงของ จ.เชียงราย ด่านห้วยก๋วนจ.น่าน ด่านท่าลี่ จ.เลย และด่านหนองคาย จ.หนองคาย ซึ่งจะทำให้เม็ดเงินสะพัดทั่วภาคอีสาน สร้างสีสันเสน่ห์สงกรานต์หนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น แล้วยังสามารถเดินทางวนเข้าภาคกลาง กลับไปทางภาคเหนือ ย้อนกลับสู่อีสาน กลับสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ ด้วยการสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความหมาย ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างดี

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen