มีรายงานว่า Agoda (อโกด้า) แบรนด์ยักษ์ใหญ่สำรองห้องพักโรงแรมในเอเชีย เตรียมปรับลดพนักงานลง 1,500 คน ซึ่งเป็นสัดส่วน 25% ของจำนวนพนักงานทั้งหมดเพื่อลดต้นทุนที่ได้รับจากผลกระทบวิกฤตโควิด
“จอห์น บราวน์” ซีอีโอ ของอโกด้า ได้กล่าวกับพนักงานในวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าวพิสูจน์แล้วว่ามันยาวนานกว่าและลึกกว่าที่คาดไว้ ต่อข้อถามที่ว่าพนักงานส่วนไหนจะได้รับผลกระทบมากที่สุด “บราวน์” ระบุว่าในส่วนของแผนกที่ติดต่อลูกค้า Customer Experience Group (CEG) รวมถึงแผนกอื่นด้วยทั้งไอที, การเงิน, ส่วนบริการพันธมิตร, การตลาดและ Rocketmiles.com
แผนการลดต้นทุนยังรวมถึง ผู้นำของทีมระดับอาวุโสจะถูกลดเงินเดือน 20% ตั้งแต่ 1 มิ.ย. ส่วนตัวของเขาเองเป็นคนแรกที่ไม่รับเงินเดือนในเวลาที่เหลือของปีนี้ การลดจำนวนพนักงานจะเป็นหนทางป้องกันความวิตกกังวลและความไม่แน่นอนที่เหลืออีกต่อไป
หลังจากนั้นเขาได้อีเมล์ไปถึงพนักงานอีกด้วยว่า ก่อนการตัดสินใจครั้งนี้พวกเขาได้ใช้มาตรการขั้นรุนแรง และทำทุกอย่างเพื่อลดต้นทุนการดำเนินการทางธุรกิจลง การลดจำนวนพนักงานลงจะเป็นหนทางสุดท้าย แต่พวกเราต้องทำในการตัดสินใจที่ยากลำบากนี้ ความจริงที่เกิดขึ้นในขณะที่เราได้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวในตลาดหลักคือในเอเชียและแปซิฟิก ผลกระทบที่ิเกิดขึ้นจากไวรัสต่ออุตสาหกรรมการเดินทางนี้มันล้ำลึกและจะอยู่ยาวนานกว่าที่เราคาดการณ์ไว้
“วันนี้เราประกาศถึงความจำเป็นในการประหยัดเงินให้มากขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าอโกด้าสามารถรับมือกับวิกฤตการณ์ครั้งนี้ และเตรียมพร้อมสำหรับระยะยาว เราจำเป็นต้องปรับขนาดองค์กรเพื่อปรับให้เข้ากับการท่องเที่ยวที่จะมีขึ้นในอนาคต และนั่นหมายความว่าเราได้ตัดสินใจอย่างหนักเพื่อลดทีมงานลง 1,500 คน”
อโกด้า นับเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพเล็กๆ สู่ธุรกิจขนาดใหญ่ระดับแสนล้านบริษัทผู้ให้บริการสำรองห้องพักทางออนไลน์ สำหรับโรงแรมในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกเป็นหลัก โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์และมีสำนักงานดำเนินการหลักอยู่ที่ กรุงเทพ กัวลาลัมเปอร์ โตเกียว ซิดนีย์ ฮ่องกง และบูดาเปสต์ นอกจากนี้ยังมีสำนักงานย่อยในเมืองใหญ่ทั่วเอเชีย แอฟริกา ตะวันออกกลาง ยุโรปและอเมริกา
ธุรกิจของอโกด้า เกิดขึ้นที่จังหวัดภูเก็ต ประเทศไทย ในปี 1998 โดยผู้ก่อตั้งชื่อ ไมเคิล เคนนี่ ภายใต้ชื่อ PlanetHoliday.com โดยมีแนวคิดเริ่มแรกในการใช้เสิร์ชเอนจิ้น เพื่อเติมเต็มช่องว่างทางด้านข้อมูลโรงแรมและการท่องเที่ยว และ เพื่อเป็นเว็บไซต์ต้นทางในการค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยว รวมถึงรับจองโรงแรมออนไลน์อีกด้วย
ธุรกิจของ “เคนนี่” โตเร็วมากๆ ถึงแม้เขาจะไม่ได้เป็นเจ้าของโรงแรมสักแห่งเดียวเลยก็ตาม แต่เขาทำเงินได้มากจากการเป็นเอเจนซี่รับจองโรงแรมทั่วโลก โดย แพลนเน็ต ฮอลิเดย์นับเป็นหนึ่งในเว็บไซต์จองโรงแรมแห่งแรก ๆ ในวงการสำรองห้องพักออนไลน์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นธุรกิจมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เดิม “เคนนี่” อาศัยอยู่ในลองไอส์แลนด์ นครนิวยอร์ก ก่อนจะย้ายมาประเทศไทยในปี 1994 และก่อตั้งเว็บไซต์พร้อมสำนักงานเล็ก ๆ ขึ้นที่ภูเก็ต ในปี 2003 เกิดโรคซาร์สระบาด ได้สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่เว็บไซต์ที่อยู่ในวงการธุรกิจสำรองห้องพักออนไลน์ทั้งหมดสามารถเอาตัวรอดจากหายนะเหล่านี้มาได้
ปี 2002 สำนักงานของบริษัทได้ย้ายจากภูเก็ตมาที่กรุงเทพ และในปี 2005 บริษัทได้เพิ่ม พรีซิชั่น เรเซอร์เวชั่น ดอตคอม (PrecisionReservation.com) เข้ามา ในฐานะเว็บไซต์หุ้นส่วนเพื่อให้บริการจองโรงแรมผ่านเว็บไซต์ที่เป็นพันธมิตร และในปีเดียวกันนี้ แพลนเน็ต ฮอลิเดย์ และ พรีซิชั่น รีเซอร์เวชั่น ก็ได้รวมเข้าด้วยกันภายใต้ชื่อ บริษัท อโกด้า จำกัด ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้ขยายธุรกิจอย่างรวดเร็วไปทั่วเอเชีย
ในเดือนพฤศจิกายน 2007 Priceline.com ซึ่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ต ได้ซื้อกิจการของบริษัทอโกด้า นับเป็นบริษัทนานาชาติแห่งที่สามที่ Priceline.com ตัดสินใจซื้อ
โดย Priceline วางแผนที่จะใช้ในการขยายสู่เอเชีย (ยกเว้นจีนและอินเดีย) การเข้าซื้อกิจการอโกด้าในราคาถูกมา โดย ไมเคิล เคนนี่ เจ้าของของอโกด้าได้รับเงินล่วงหน้า 16 ล้านดอลลาร์และอีก 142 ล้านดอลลาร์หากเขาบรรลุเป้าหมายบางอย่างภายหลังเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ
