- ครั้งแรกกับการคอลแลบส์ คลอดแคมเปญ “จอยรสชาติอร่อยข้ามจักรวาล”
- หวังตอบสนองความต้องการผู้บริโภคที่ชื่นชอบความหลากหลาย
- พร้อมอัดทุ่มงบ 40 ล้านบาท เดินสายแพ็คคู่ จัดกิจกรรมแคมเปญสร้างสีสัน กระตุ้นตลาดต่อเนื่อง
นายเพชร พะเนียงเวทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ “มาม่า” ครบรอบ 50 ปีแล้ว โดยทางมาม่ายังคงไม่หยุดนิ่ง และยังเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ สร้างคุณค่าและรสชาติที่หลากหลายต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ล่าสุดผลิตภัณฑ์ “มาม่าโอเค” ได้จับมือกับ มันฝรั่งแผ่นทอดกรอบเลย์ คิดค้นและพัฒนาtสูตรผลิตภัณฑ์ร่วมกันจนได้มาเป็น มาม่าโอเค (MAMA OK) 2 รสชาติใหม่ รสชิลลี่แครบ และ รสมิโซะบัตเตอร์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการรสชาติใหม่ที่หลากหลาย เป็นการสร้างความแตกต่างและสีสันให้กับตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และตลาดขนมขบเคี้ยวได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่าโอเค กลิ่นชิลลี่แครบ แบบแห้ง รสชาติเผ็ดลงตัว กลมกล่อมหอมกลิ่นปู มากับเส้นที่หนานุ่ม จะวางจำหน่ายตามร้านค้าทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ และอีกรสชาติ มาม่าโอเค รสมิโซะบัตเตอร์ แบบแห้ง ความลงตัวระหว่างกลิ่นของเนยและรสมิโซะบวกกับเส้นที่หนานุ่ม จะวางจำหน่ายเฉพาะร้านสะดวกซื้อ 7-11 เท่านั้น โดยทั้ง 2 รสชาติ จะวางจำหน่ายช่วยกลางเดือน ส.ค.นี้ ในราคาซองละ 15 บาท
“นับเป็นครั้งแรกของการจับมือกันระหว่างมาม่าและเลย์ โดยเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ตลาดในปัจจุบันซึ่งพบว่า หากเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ราเมงมิโซะบัตเตอร์ได้รับความนิยมสูง ส่วนประเทศสิงคโปร์จะมีร้านจัมโบ้ชื่อดัง ที่เมื่อไปเยือนจะต้องไปทานที่ร้าน และเมนูจานหลักก็หนีไม่พ้นชิลลี่แครบที่ได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ซึ่งทางมาม่าและเลย์ก็ได้นำทั้ง 2 รสชาตินี้ มาคิดค้นพัฒนาและปรับสูตรเพื่อให้คนไทยได้เข้าถึงรสชาติที่คิดถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ภายใต้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเดียวกันนั่นคือคนรุ่นใหม่ และต้องการสีสันของผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่อยู่อย่างต่อเนื่อง” นายเพชร กล่าว
นายเพชร กล่าวต่อว่า นอกจากความร่วมมือกันในเรื่องการคิดค้นออกแบบด้วยการนำรสชาติที่เป็นที่นิยมของทั้ง 2 ประเทศมาสร้างความอร่อยในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและขนมขบเคี้ยวแล้ว ทางมาม่าโอเคและเลย์ได้สร้างความแตกต่างด้วยแคมเปญทางการตลาดและกิจกรรมต่างๆ วางงบประมาณสำหรับการทำการตลาดไว้ที่ 30-40 ล้านบาท โดยเน้นไปที่ช่องทางออนไลน์ เจาะไปในทุกๆ platform IG, Twitter, Tiktok, youtube เป็นต้น เพื่อส่งต่อความสนุกให้แก่ผู้บริโภคได้เข้าร่วมไปกับแคมเปญในครั้งนี้ด้วย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังถามถึงประเด็นที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องขออนุญาต จึงจะปรับราคาขายปลีกได้ ในส่วนมาม่าขณะนี้มีผลกระทบหรือไม่ นายเพชร กล่าวว่า มาม่าเองมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งด้านการควบคุมการผลิตลดต้นทุน บริหารจัดการให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งก็ส่งผลให้ราคาจำหน่ายยังคงยืนราคาเดิมไว้ได้ในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
“ปัจจุบันตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในไทยมีมูลค่ารวม 18,000 ล้านบาท โดยในมูลค่าดังกล่าวแบ่งเป็นกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียม 30% โดยใน 30% นี้ มาม่า โอเค มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 20% อีกทั้งประเมินว่าในช่วงครึ่งปีหลังตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียม จะมีทิศทางโตขึ้นอีก 15% มั่นใจว่าการเปิดตัว 2 รสชาติใหม่กับเลย์ครั้งนี้ จะกระตุ้นยอดขายให้มาม่าได้แน่นอน” นายเพชร กล่าว
ด้านนางสาวพรรณทิพา พงศ์ชัยฤกษ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์เลย์ บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า เลย์ในฐานะผู้นำการตลาดกลุ่มมันฝรั่งแท้ทอดกรอบได้สร้างนวัตกรรมสินค้าใหม่ๆ ผ่านการออกแคมเปญโดยจับมือกับพันธมิตรต่างๆ เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ๆ กับผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและเทรนด์การบริโภคในตลาด โดยครั้งนี้ทางบริษัทได้มองเห็นโอกาสทางการตลาดร่วมกับทาง มาม่า โอเค จึงได้เกิดเป็นแคมเปญจอยรสชาติอร่อยข้ามจักรวาลขึ้น
โดยเป็นการร่วมมือทั้งในเรื่องของการพัฒนาผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ร่วมกัน ทั้งในรูปแบบขนมมันฝรั่งแท้ทอดกรอบและบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่คาดว่าจะถูกใจผู้บริโภคและจะเป็นเทรนด์ใหม่ที่สร้างความตื่นเต้นในตลาดได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการจัดกิจกรรมทางการตลาดร่วมกัน เพื่อสร้างความตื่นเต้นและมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้แก่ผู้บริโภคของทั้ง 2 แบรนด์
นางสาวพรรณทิพา กล่าวต่อว่า สำหรับเลย์มันฝรั่งแท้ทอดกรอบแผ่นเรียบ กลิ่นชิลลี่แครบ หอมกลิ่นปูราดซอสเผ็ดสไตล์สิงคโปร์เข้มข้นผสานความกรุบกรอบของมันฝรั่งแท้ทอดกรอบทำให้รสชาติออกมาลงตัว หอม อร่อย น่าทาน วางจำหน่ายตามร้านค้าทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ ส่วน เลย์มันฝรั่งแท้ทอดกรอบแผ่นหยัก กลิ่นมิโซะบัตเตอร์ ได้รับอิทธิพลมาจากเทรนด์ที่เราเห็นผู้บริโภคให้ความนิยมกับเมนูราเมงญี่ปุ่น จึงได้มาซึ่งรสมิโซะบัตเตอร์ที่หอมกลิ่นเนยและมิโซะ บนความกรอบอร่อยของมันฝรั่งแท้ทอดกรอบ ในรสชาติที่อร่อยลงตัว หอมกลมกล่อม วางจำหน่ายเฉพาะร้านสะดวกซื้อ 7-11 เท่านั้น โดยทั้ง 2 รสชาติใหม่จะวางจำหน่ายวันที่ 11 ส.ค.นี้
“บริษัท ฯ คาดว่าแคมเปญนี้จะสร้างสีสันและได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค อีกทั้งจะช่วยกระตุ้นตลาดขนมขบเคี้ยวให้เติบโตดังเช่นที่ผ่านมา ทั้งนี้ เลย์ได้รับรางวัล Top Growing Brand ในกลุ่มอาหารจากเวที Brand Footprint Award 2022 ประเทศไทย โดย Kantar และ รางวัล Best of Tweets จากทวิตเตอร์ ประเทศไทย 2 ปีซ้อน (2020-2021) ซึ่งเลย์ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และยังคงไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา” นางสาวพรรณทิพา กล่าว
