“ตุรกี”ยุติค้นหาผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวคืนนี้ ชี้ยอดตายพุ่งกว่า 4.6 หมื่นราย

  • แพทย์กังวลการแพร่กระจายของการติดเชื้อ
  • หลังโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขเสียหาย

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทางการตุรกี กำลังพยายามจัดการกับภัยพิบัติสมัยใหม่ที่เลวร้ายที่สุด จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.8 แม็กนิจูด เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้อาคาร ตึกและบ้านเรือน 345,000 หลังพังถล่มลงมา ซึ่งทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 46,000 รายแล้ว ท่ามกลางความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเหยื่อของโศกนาฏกรรมในซีเรีย โดยโครงการอาหารโลก (WFP)กดดันเจ้าหน้าที่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือให้ยุติการปิดกั้นการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัย เพื่อช่วยเหลือผู้คนหลายแสนคน ของผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

เดวิด บีสลีย์ ผู้อำนวยการ WFP กล่าวว่า ในกรอบการประชุมความมั่นคงมิวนิก รัฐบาลซีเรียและตุรกี ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ปฏิบัติการถูกขัดขวางทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียปัญหาที่กำลังเผชิญ คือการข้ามแดนไปยังภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งทางการซีเรีย และทางตะวันตกเฉียงเหนือไม่ให้เข้าถึงตามที่ต้องการ

แพทย์และผู้เชี่ยวชาญ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการแพร่กระจายของการติดเชื้อ เนื่องจากในพื้นที่ มีอาคารหลายหมื่นหลังพังทลายเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านสุข เสียหาย

ด้านนายฟาเรตติน โคคา รัฐมนตรีสาธารณสุขตุรกี กล่าวว่า แม้ว่าจะมีการติดเชื้อในลำไส้ และระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่ได้เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพของประชาชน

อย่างไรก็ตาม นายยูนุส เซเซอร์ หัวหน้าหน่วยงานจัดการภัยพิบัติและเหตุฉุกเฉินของตุรกี (AFAD) กล่าวว่า ความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิต และกู้ภัยส่วนใหญ่จะยุติในคืนวันอาทิตย์นี้ โดยมียอดผู้เสียชีวิตล่าสุดในตุรกี 40,642 ราย ขณะที่ในซีเรีย มีมากกว่า 5,800 ราย แต่ทั้งตุรกีและซีเรีย ไม่ได้ระบุว่ามีผู้สูญหายอีกกี่คน ทำให้ครอบครัวที่ยังคงรอญาติในตุรกีกลับคืน มีความโกรธแค้นเพิ่มขึ้น และกล่าวหาว่าการสร้างอาคารที่เสียหาย และการพัฒนาเมือง มีข้อบกพร่อง เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ บ้านเรือน และธุรกิจหลายพันหลังต้องพังทลายลงจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้