ตำรวจออกยืนยัน ไม่มีคำสั่งใช้กระสุนจริงสลายม็อบ ลั่นเตรียมวางแผนรับมือม็อบเห็นต่างปะทะกัน

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่เริ่มมีการชุมนุมในหลายพื้นที่ ตำรวจได้จับกุมผู้ชุมนุมไปแล้ว 77 คน แบ่งเป็นความผิดกฎหมายอาญา 22 คน, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 54 คน และขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน 1 คน ในจำนวนนี้มีกรณีตำรวจ สน.หลักสอง ขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการจัดชุมนุมที่เดอะมอลล์ บางแค ทราบชื่อ 1 คน คือ นางญาศิภัสมณี เรืองศิริสกุล และผู้เกี่ยวข้องตามภาพอีกจำนวนหนึ่ง

ทั้งนี้ส่วนในพื้นที่อื่นของการชุมนุมเมื่อวานนี้ (20 ต.ค.2563) ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมยอมรับว่า กังวลกรณีมีกลุ่มเห็นต่างจากกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มออกมาเคลื่อนไหว และอาจจะมีการเผชิญหน้ากัน จึงเตรียมแผนรับมือไว้ โดยมอบหมายให้ผู้กำกับการแต่ละพื้นที่มีอำนาจสั่งการ และสามารถประสานขอกำลังจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าไปสนับสนุนได้ทันที 

“ขอยืนยันว่า ตำรวจมีความพร้อมรับมือการชุมนุม พร้อมเตรียมปรับแผนตามสถานการณ์ เพื่อดูแลความปลอดภัยของประชาชนและกลุ่มผู้ชุมนุม” พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว 

ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ในเวลาพบมีความพยายามสร้างสถานการณ์ให้ผู้ชุมนุมเกิดความหวาดกลัว ด้วยการสร้างข้อมูลอันเป็นเท็จ ในลักษณะว่าเจ้าหน้าที่จะใช้กระสุนจริงกับผู้ชุมนุมหรือปล่อยข่าวว่าจะมีการสังหารหมู่ประชาชน ยืนยันว่าไม่มีคำสั่งให้ใช้กระสุนจริง และเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และอย่าส่งต่อข้อมูลเท็จ เช่นเดียวกับภาพข่าวตำรวจนำกำลังเข้าไปตรวจค้นจับกุมโรงงานผลิตหมวกนิรภัยสนับสนุนให้กับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยระบุว่า ยังไม่ได้รับรายงานชัดเจน แต่อาจเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจจับหมวกที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน มอก. ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่มีกลุ่มผู้ไม่หวังดี บิดเบือนข้อมูล พยายามนำไปโยงกับการชุมนุม ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นข่าวจริงหรือข่าวปลอม