- นักลงทุนจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ เพื่อช่วยคนว่่างงานให้สหรัฐฯ
- ตลาดแกว่งตัวแคยในแดนบวก-ลบรอการประกาศผลประกอบการบริษัทขนาดใหญ่
- นักลงทุนรายใหญ่เริ่มตั้งข้อสังเกต ราคาหุ้นสหรัฐอาจสูงเกินไป เทียบกับภาวะเศรษฐกิจ
เมื่อเวลา 21.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 26,549.96 จุด ลดลง 121.99 จุด หรือ -0.46% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,590.69 จุด เพิ่มขึ้น 87.50 จุด หรือ +0.83% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,226.90 จุด บวกเล็กน้อย 2.17 จุด หรือ +0.07%
ตลาดแกว่งตัวผันผวน หลังจากพุ่งขึ้นต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนรอผลการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ หลังจากที่โครงการช่วยเหลือคนว่างงาน 600 ดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์จะหมดอายุลงในวันที่ 31 ก.ค.นี้
นอกจากนั้น ตลาดยังจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทชั้นนำของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ไมโครซอฟท์, เทสลา, อินเทล และเวริซอน คอมมิวนิเคชันส์ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรายใหญ่เริ่มให้ความเห็นในลักษณะที่ว่า ดัชนีตลาดหุ้นของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นมากกว่าพื้นฐานที่ควรจะเป็นแล้ว และไม่มีเหตุผลในการเพิ่มขึ้นของดัชนีในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะการปรับเพิ่มทำลายสถิติสูงสุดต่อเนื่องของดีชนีแนสแด็ก คอมโพซิส
นักลงทุนยังคงกังวลตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่ยังพุ่งขึ้นในอัตราที่สูงมากในแต่ละวัน ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอย่างที่คิด โดยระบุว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่แค่คัดจมูก ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้นมาจากการตรวจหาเชื้อในวงกว้าง แม้แต่ทั่วโลกยังอิจฉาการรับมือของสหรัฐ
