ตรวจสอบจองชื่อจดทะเบียนนิติบุคคลรู้ผลใน 2 นาที

  • กรมพัฒนาธุรกิจการค้าใช้ระบบเอไอประมวลผล
  • หวังอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจ-ประหยัดเวลา
  • พร้อมคุมเข้มจดทะเบียนใหม่หวั่นอ้างชื่อคนอื่นหากิน

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมกำลังปรับปรุงระบบการจองชื่อนิติบุคคล ให้สามารถตรวจสอบและทราบผลการอนุมัติการจองชื่อได้ทันที โดยใช้เทคโนโลยีเอไอ เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้การจองชื่อใช้เวลาเหลือเพียงไม่เกิน 2 นาที ก็จะทราบผลว่าชื่อที่จองไว้ได้รับการอนุมัติให้ใช้ได้หรือไม่ ทำให้ช่วยประหยัดเวลา และการจดทะเบียนทำได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ ยังได้เชื่อมโยงข้อมูลนิติบุคคลกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ มีเป้าหมายจำนวน 382 หน่วยงาน โดยได้เชื่อมโยงไปแล้ว 118 หน่วยงาน ทำให้หน่วยงานต่างๆ สามารถนำข้อมูลนิติบุคคลไปใช้สนับสนุนการทำงานได้แม่นยำขึ้น เช่น หากบุคคลซื้อขายที่ดินกับบริษัท กรมที่ดินก็สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้แทนบริษัทคือใคร เป็นกรรมการผู้มีอำนาจจริงหรือไม่ หรือกรณีหน่วยงานที่ตรวจสอบ หากมีการฉ้อโกง ก็สามารถตรวจได้ว่าบริษัทที่กระทำผิด มีใครเป็นกรรมการ เป็นต้น 

ขณะเดียวกัน ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล โดยได้ขอความร่วมมือไปยังสภาทนายความ เนติบัณฑิตยสภา และสภาวิชาชีพบัญชีให้กำกับดูแลทนายความ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต และผู้ทำบัญชี ให้กำชับผู้ประกอบวิชาชีพที่เป็นผู้รับรองผู้ขอจดทะเบียน ให้ผู้ขอจดทะเบียนลงลายมือชื่อต่อหน้าเท่านั้น เพื่อป้องกันความเสียหายต่อประชาชน ลดข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นทางธุรกิจ และป้องกันการสวมรอยเป็นบุคคลอื่นมายื่นจดทะเบียน

“การลงลายมือชื่อของผู้ขอจดทะเบียน ที่ได้รับการรับรองจากบุคคลที่กรมกำหนดไว้ เช่น ทนายความ กรมจะถือว่าลายมือชื่อนั้นถูกต้อง โดยนายทะเบียนไม่ต้องมาตรวจสอบซ้ำอีก และการไม่ลงลายมือชื่อต่อหน้า อาจทำให้เกิดกรณีปลอมแปลงลายชื่อ หรือใช้ชื่อบุคคลอื่นยื่นขอจดทะเบียน ซึ่งเป็นการทำผิดกฎหมาย และเป็นเหตุให้คำขอจดทะเบียนอาจถูกเพิกถอนได้ และผู้ที่มีหน้าที่รับรองอย่างทนายความ ผู้สอบบัญชี ก็จะมีความผิดฐานสนับสนุนให้ผู้อื่นทำความผิดและแจ้งความเท็จ มีโทษทั้งจำคุกและปรับ และกรม จะแจ้งต่อสภาที่ดูแลเพื่อให้ลงโทษด้วย”นายพูนพงษ์กล่าว