ตกงานอย่างมืออาชีพ

  • รู้เท่าทันระบบประกันสังคม เพื่อความมั่นคงยามชรา
  • คนที่กำลังจะตกงาน หรือ ตกงานไปแล้ว โปรดฟังทางนี้!!!

ชีวิตมนุษย์เงินเดือน ที่ดูเหมือนว่าทุกอย่างถูกจัดวางไว้ตามระบบ แบบไม่ต้องคิดหรือต้องเตรียมการวางแผนอะไรไว้ล่วงหน้า แต่ละเดือนรับเงินเดือน ถูกหักประกันสังคมเดือนละ 750 บาท สำหรับคนที่มีฐานเงินเดือนเกิน 15,000 บาทขึ้นไป นานๆทีใช้สิทธิ์ประกันสังคมไปหาหมอ หรือทำฟัน ตามวาระและสภาพการเจ็บป่วยของร่างกาย เป็นอย่างนี้มาตลอด

 แต่เมื่อถึงวันที่ชีวิตผกผันต้องออกจากงาน  หลายคนอาจจะเคว้งไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน อย่างไรก่อน มีคำแนะนำดังนี้ครับอันดับแรกขอให้ไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ว่างงาน โดยไม่ต้องรอหนังสือรับรองการออกจากงาน 

ที่ต้องไปขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานก็เพราะจะเป็นเงื่อนไขสำหรับการใช้สิทธิขอรับเงินชดเชยกรณีว่างงานจากสำนักงานประกันสังคม

หากเป็นกรณีถูกเลิกจ้าง จะได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานเป็นเวลา 180 วัน หรือประมาณ 6เดือน เดือนละ 50% ของค่าจ้าง เช่น จ่ายประกันสังคมเดือนละ 750 บาท(อัตราสูงสุด) เท่ากับว่า ฐานเงินเดือนอยู่ที่ 15,000 บาท  จะได้เงินช่วยเหลือว่างงานเดือนละ 7,500 บาท  

สูงสุดจะได้เท่านี้ไม่ว่าเงินเดือนจะสูงแค่ไหนก็ตาม เพราะคิดฐานเงินเดือนสูงสุดที่ 15,000 บาท  ไม่ใช่ว่าเงินเดือนตัวเองรับอยู่เดือนละ 100,000 บาท แล้วถูกเลิกจ้างจะได้เงินช่วยเหลือเดือนละ 50,000บาท 

กรณีลาออกหรือสิ้นสุดสัญญาจ้างตามกำหนดระยะเวลา ซึ่งส่วนนี้จะรวมพวกที่เข้าโครงการเกษียณก่อนกำหนดหรือเออรี่รีไทร์ จะได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานไม่เกิน 90 วัน หรือประมาณ 3 เดือน ในอัตรา 30% ของค่าจ้างเช่น ผู้ประกันตนมีเงินเดือน 15,000 บาท จะได้รับเดือนละ 4,500 บาท

มาเข้าเรื่องที่สำคัญกันเลยดีกว่า ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ และอาจจะทำให้เสียสิทธิ์ในอนาคตไปเลยเพราะความไม่รู้ ในกรณีที่ส่งเงินสมทบประกันสังคมมาครบ 15 ปี ท่านจะได้รับสิทธิ์เงินบำนาญชราภาพในอัตรา 20% ของเงินเดือนเฉลี่ย60 เดือนสุดท้ายที่จ่ายเงินสมทบ โดยจะได้รับสิทธิ์เมื่ออายุเกิน 55 ปีขึ้นไปและต้องขอออกจากระบบประกันสังคม ไม่เป็นผู้ประกันตนต่อไป

ความหมายก็คือ ถ้าท่านจะขอรับสิทธิ์เงินบำนาญชราภาพ ท่านจะต้องออกจากระบบประกันสังคม โดยจะไม่ได้รับสิทธิ์รักษาพยาบาลหรือสิทธิ์อื่นๆในระบบประกันสังคมอีกต่อไป คงต้องไปใช้สิทธิ์บัตรทองแทน แต่จะได้รับเงินบำนาญเป็นรายเดือนไว้เลี้ยงชีวิต

สำหรับเงินบำนาญที่จะได้รับในแต่ละเดือนเป็นดังนี้คือ หากจ่ายประกันสังคมมาครบ 15 ปี และ 60 เดือนหรือช่วง 5 ปีสุดท้าย จ่ายประกันสังคมเดือนละ 750 บาทมาตลอดทุกเดือน เท่ากับว่าคิดฐานเงินเดือนสูงสุดที่ 15,000 บาท จะได้รับ 20%ของเงินเดือนคือ เดือนละ 3,000 บาท  

ส่วนคนที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมมาเกิน 15ปี หรือ 180 เดือน จะได้เพิ่มปีละ 1.5% ของเงินเดือน สมมติว่าจ่ายมารวม 20 ปี จะได้เงินเดือนละ 3,000บาท รวมกับอีกปีละ 1.5% ของเงินเดือนเป็นเวลา 5ปี เป็นเงิน 1,125 บาท รวมแล้วส่งเงินประกันสังคม 20 ปี จะได้เงินบำนาญชราภาพเดือนละ 4,125 บาท ภายใต้เงื่อนไขว่า 60 เดือนสุดท้ายจ่ายในอัตราสูงสุดคือ 750 บาท จึงจะคิดฐานเงินเดือนสูงสุดที่15,000 บาท

สิ่งที่ต้องระวังก็คือ สำหรับคนที่ออกจากงานแล้ว สมัครเข้าระบบประกันสังคมตามมาตรา 39 ที่จ่ายเงินสมทบด้วยตนเองเดือนละ 432 บาท (คิดที่ฐานเงินเดือนเดือนละ 4,800 บาท) เพื่อต้องการรักษาสิทธิ์ในการรักษาพยาบาลไว้เช่นเดิม แต่สิ่งที่จะสูญเสียไปแบบไม่คาดคิดคือ เงินบำนาญชราภาพจะหดหายไปอย่างน่าใจหาย 

สมมติว่าท่านเป็นพนักงานบริษัทส่งเงินสมทบประกันสังคมตามมาตรา 33 มาในอัตราเดือนละ750 บาท ตลอด 180 เดือนหรือ 15 ปี อยู่ดีๆถูกให้ออกจากงานแล้วมาส่งเงินสมทบตามมาตรา 39ต่อเดือนละ 432 บาท เป็นเวลา 5 ปี หรือ 60 เดือน เงินบำนาญชราภาพที่ท่านจะได้รับจะอยู่ที่ 20%ของ 4,800 บาท หรือ 960 บาท(จากเดิมที่ควรได้ 3,000 บาท) 

เนื่องจากตามระเบียบจะนำเงินเดือนเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายมาคำนวณเป็นอัตราเงินที่จะจ่ายเป็นบำนาญชราภาพ ดังนั้นเมื่อรวมกับอีก1.5% เป็นเวลา 5 ปี คิดเป็นเงิน 360 บาท เท่ากับว่า จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเหลือเดือนละ  1,320 บาท  จากที่ควรจะได้เดือนละ 4,125 บาท ต่างกันราวฟ้ากับเหว หายไปเดือนละ 2,805 บาท

แนวทางที่จะรักษาเงินชราภาพไว้ให้ได้ที่อย่างต่ำเดือนละ 3,000 บาทก็คือ ต้องรีบเข้าระบบประกันตนมาตรา 33 นั่นก็คือหางานใหม่โดยเร็ว หรือหากหางานไม่ได้จริงๆก็คงต้องเลือกการลาออกจากผู้ประกันตน เพื่อรอให้อายุครบ 55 ปี แล้วจะได้รับเงินบำนาญชราภาพแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่หวัง แต่นั่นหมายถึงต้องยอมเสียสิทธิ์รักษาพยาบาลตามระบบประกันสังคมแล้วไปใช้สิทธิ์บัตรทองแทน

ดังนั้นหากท่านจะสมัครเข้าระบบมาตรา 39 จะต้องคิดให้ถี่ถ้วน คำนวณให้ดีเสียก่อน ไม่เช่นนั้นเงินที่หวังจะได้ไว้ใช้ยังชีพยามแก่ชราจะหดหายไปทันที เหลือแค่หยิบมือเดียว เสียแรงเปล่าที่ส่งเงินเต็มจำนวนมาตลอด 15 ปี

คนชายขอบ