ด่วนที่สุด! สาธารณสุข แจ้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ให้สลับฉีดวัคซีน

  • ข็มแรก “ซีโนแวค”​ เข็มสอง “แอสตร้าเซเนก้า”​
  • สำรวจรายชื่อบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อรอจัดสรรวัคซีนเข็มกระตุ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อโควิด-19  ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2564  ที่สธ (ศปค.)​0248 / 385 ถึงนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เรื่อง การฉีดวัคซีนโควิด 19 สลับชนิด สำหรับประชาชนและการฉีดวัคซีนโควิด19 กระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้า 

ด้วยสถานการณ์การระบาตของโรคติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พบการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ กลายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์เดลตา เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งมีการศึกษาโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะต้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ถุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งประเทศไทย (ใบโอเทค) พบว่า การฉีดวัคซีน Sinovac เป็นเข็มที่ 1และฉีตวัคซีน AstraZeneca เป็นเข็มที่ 2 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสให้อยู่ในระดับที่สูงได้เร็ว มากขึ้น โดยสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีใกล้เคียงกับ AstraZeneca 6 เข็ม ซึ่งคาดว่าจะมีผลตีต่อการป้องกัน ไรรัสสายพันธุ์เดลตา และไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรงภายหลังได้รับวัคชีน จากกรณีดังกล่าว การประชุมคณะกรรมการโรคติตต่อแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติโรคติตต่อ พ.ศ. 2558 ครั้งที่ 7/2564  เมื่อวันที่16  กรกฎาคม 2564  และการประชุมคณะกรรมการอำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินต้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อโควิด 19 (ตปค.สธ) ครั้งที่  10 / 2564  เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม มีมติเห็นชอบการ ฉีดวัคชีนโควิด 19 สลับชนิด (ฉีตวัคซีน Sinovac เป็นเข็มที่ 3 และตามด้วยวัคซีน AstraZeneca เป็นเข็มที่ 6)และการณีตวัคซีนโควิต 19 กระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า แล้วนั้น

กระทรวงสาธารณสุข จึงขอแจ้งแนวทางการฉีตวัคซีนโควิด 19 สลับชนิดสำหรับประชาชน และการฉีตวัคชีนโควิต 19 กระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ตังนี้ 1. การฉีดวัคชีนโควิต 19 สลับชนิด สำหรับประชาชน ให้ฉีตวัคซึนโควิต 19 เข็มที่ 1  ด้วยวัคชีนโคโรนาแวค (Coronavac) ของบริษัท Sinovac Biotech จำกัด และเข็มที่ 2เป็นวัคชีน AstraZeneca ของบริษัท AstraZeneca จำกัต โตยมี ระยะห่างระหว่างเข็ม 3 – 4 สัปตาห์ หากเกินกว่าระยะห่างที่กำหนด ขอให้ฉีตวัคซีนโดยเร็ว เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์เตลตา โดยจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสให้อยู่ในระดับที่สูง ใกล้เคียงกับผู้ที่ใต้รับวัคชีน AstraZeneca ๒6 เข็ม แต่ใช้ระยะเวลาสั้นกว่า เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและควบคุม โรคโควิด 19 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ของโรค ในระยะที่มีวัคชีนจำนวนจำกัด ในกรณีผู้ที่ได้รับวัคซึนเข็มที่ 3  เป็นวัคซีน AstraZeneca กำหนดให้รับวัคนเข็มที่ 2  เป็นวัคซีน AstraZeneca เช่นเดิม โดยมีระยะห่างระหว่างเข็ม  32  สัปตาห์

2.การฉีตวัคชีนโควิด 19 กระตุ้นภูมิคุ้มกันสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า กำหนดให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า ที่ดูแลผู้ป่วยโควิต 12 เช่น บุคลากรที่ปฏิบัติงานแผนกผู้ป่วยโควิด19 แผนกผู้ป่วยนอก คลินิกทางเดินหายใจ ห้องฉุกเฉินแผนกผู้ป่วย วิกฤต โรงพยาบาลสนาม เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในสถานที่ กักกัน  และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานใน Hospitel ที่ใต้รับวัคซีนโตโรนาแวค (Coronavac)  ของบริษัท Sinovac Biotech จำกัด ครบ 2 เซ็ม ได้รับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันโดยการรับวัคซีน AstraZeneca หรือวัคซีนชนิด messenger Ribonucleic Acid (mRNA) จำนวน 4  เข็ม โดยมีระยะห่างระหว่างเข็มที่  2  และเข็มกระตุ้น อย่างน้อย 4  สัปตาห์ หากเกินกว่าระยะห่างที่กำหนด ขอให้ฉีดวัคซีนโดยเร็ว เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส ให้อยู่ในระตับที่สูงอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้ที่ใต้รับวัคซีน AstraZeneca ครบ 2  เข็มนั้น เนื่องจากภูมิคุ้มกันยังอยู่ใน ระดับที่สูงเพียงพอ จึงยังไม่ต้องฉีดเข็มกระตุ้นในระยะนี้

ทั้งนี้ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่นๆ จะได้รับการจัดสรรวัคซีนเข็มกระตุ้น ในระยะถัดไป ขอให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำรวจรายชื่อบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขด่านหน้าที่ตูแลผู้ป่วยโควิด 19 พร้อมทั้งเสนอรายชื่อตังกล่าวต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด เพื่อพิจารณาตรวจสอบ ยืนยันสถานะของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขแต่ละคน และส่งข้อมูลเข้าสู่ ระบบฐานข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข (MOPH IC White is) เพื่อฉีดวัคนกระตุ้นภูมิคุ้มกัน 

สำหรับบุคลากร ทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่ใด้รับวัคนโคโรนาแวค (Coronavac) ของบริษัท Sinovac Biotech จำกัด ครบ 2 เข็มแล้ว และมีความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโควิต 19 จากการปฏิบัติงานประจำในการดูแลผู้ป่วย เพื่อธำรงไว้ซึ่งระบบบริการสาธารณสุขของประเทศไทย อนึ่ง หากท่นมีข้อสอบถามเพิ่มเติม สามารถติตต่อได้ที่ นางปียดา อังศุวัชรากร ตำแหน่งนายแพทย์ปฏิบัติการ และนางสาวนพรัตน์ วิหารท่อง ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ โทร. 02-590-3196  (ประเต็นแนวทางการให้วัคซีนโควิด 19) นายชัตติยะ อุตม์อ่าง ตำแหน่งเภสัชกรชำนาญ การ และนางสาวปิยะนาถ เชื้อนาค ตำแหน่งเภสัชกรปฏิบัติการ โทร.02-590-3222  (ประเด็นการบริหารจัดการวัคชีนโควิด 19)