“ดีอี”เร่งหามาตรการจัดการเนื้อหาไม่เหมาะสมบนสื่อโซเชียล

  • คนไทยใช้สื่อโซเซียลอย่างแพร่หลาย ใช้เฟซบุ๊ก 54 ล้านคน 
  • ใช้ไลน์ 42 ล้านคน ทวิตเตอร์ 12 ล้านคน 
  • “ดีอี” พร้อมรับมือรักษาความปลอดภัยในโลกดิจิทัลและอาชญากรรมออนไลน์

น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า  ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนสูงถึง180% ของประชากร และมีการใช้สื่อโซเชียลมีเดียสูงมาก โดยมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก มากกว่า 54 ล้านคน ตามมาด้วยไลน์ 42 ล้านคน และทวิตเตอร์ 12 ล้านคน ซึ่งก่อให้เกิดความท้าทายต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม วัฒนธรรมและประเพณี และบางส่วนเป็นการใช้งานที่สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความขัดแย้งต่อกฎหมาย และกฎระเบียบของประเทศไทยในหลายกรณี ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายอาญาว่าด้วยการหมิ่นประมาท กฎหมายด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น

“จากการรวบรวมการร้องเรียนของประชาชน พบว่าเนื้อหาไม่เหมาะสมที่พบบ่อยมากที่สุดในโลกโซเชียล คือ พฤติกรรมที่รุนแรงและเกี่ยวกับอาชญากรรมส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การทำร้ายตัวเอง การแสวงหาประโยชน์ทางเพศ การละเมิดความเป็นส่วนตัว คำพูดที่แสดงความเกลียดชัง รุนแรง และหมิ่นประมาท การหลอกลวงและการบิดเบือนข่าวสาร (Fake News) การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และความสงบเรียบร้อยของสังคม ดีอี ในฐานะหน่วยงานหลั ด้านการรักษาความปลอดภัยในโลกดิจิทัลและอาชญากรรมออนไลน์ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 จะเร่งหามาตรการในการจัดการกับเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมในด้านต่างๆ ให้สำเร็จ”

ทั้งนี้ ดีอี ได้รวบรวมความเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆ เพื่อเร่งรัดหามาตรการ แนวทางพัฒนาการใช้สื่อโซเชียลมีเดียอย่างมีคุณภาพ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อนำไปใช้ประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อแก้ไข หรือบรรเทาผลกระทบจากการใช้โซเชียลมีเดียไปในทางที่ไม่เหมาะสม พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจกับผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศให้เข้าใจบริบทของสังคมไทย และสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งปัจจุบันการใช้งานสื่อโซเชียลมีเดีย อย่างแพร่หลาย ทำให้เกิดเนื้อหาบนโซเซียลมีเดีย ที่เข้าข่ายการกระทำความผิดมีปริมาณเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงมากเช่นกัน 

ขณะที่ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้การกระทำความผิดมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นและมีการกระจายตัวลงในระดับพื้นที่จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน โดยที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้มีการดำเนินงานด้านการส่งเสริมการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย อย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์ ด้วยการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ผ่านโครงการต่างๆ เช่น ลูกเสือไซเบอร์ เครือข่ายเน็ตอาสาประชารัฐ เน็ตประชารัฐ ศูนย์ดิจิทัลชุมชน ฯลฯ