ดาวโจนส์ ปรับขึ้นกว่า 110 จุด จับตาตัวเลขเศรษฐกิจ-ทิศทางดอกเบี้ย

.นักลงทุนจับตาทิศทางดอกเบี้ยเฟดในการประชุมต้นเดือนหน้า
.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ประมาณการ เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาสแรกหดตัว 1.4%
.ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ยังออกมาดีช่วยหนุนแรงซื้อตลาด

เมื่อเวลาประมาณ 22.05 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 33,420.67 จุด เพิ่มขึ้น
118.74 จุด หรือ +0.36% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,572.96 จุด เพิ่มขึ้น 84.03 จุด หรือ +0.67% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 4,206.06 จุด เพิ่มขึ้น 22.10 จุด หรือ +0.53%

นักลงทุนจับตาตัวเลขเศรษฐกิจก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า
โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/65 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.4% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563 และเป็นตัวเลขที่แตกต่างจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจมีการขยายตัว 1.1% ในไตรมาส 1/65

ดอยซ์แบงก์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสสูงที่จะเผชิญภาวะถดถอยในช่วงปลายปี 2566 และต้นปี 2567 โดยได้รับผลกระทบจากการที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วและแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 180,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 1.41 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2513

ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 3-4 พ.ค. ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และระบุว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพ.ค. ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543 นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นหลังเดือนพ.ค. โดยอาจปรับขึ้น 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการบริษัทที่ออกมาดีช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นบริษัทเมตา แพลตฟอร์มส์ หรือเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 16% ในวันนี้ ขานรับผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ ขณะที่ นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทแอปเปิล, แอมะซอน และทวิตเตอร์ในวันนี้