ดาวโจนส์เปิดตลาดบวกต่อทั่วโลก คาดหวังจีน-สหรัฐฯลงนามข้อตกลงการค้า

  • สามตลาดหุ้นสหรัฐฯเดินหน้าทุบสถิติสูงสุดต่อเนื่อง
  • โกลแมนด์ แซค เชื่อมั่นภาษีสินค้านำเข้าจีนและสหรัฐฯ สูงสุดแล้ว
  • นักลงทุนจับตาประธานเฟดแถลงภาวะเศรษฐกิจ 13 ต.ค.

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เปิดตลาดยังคงเดินหน้าทำสถิติสูงสุดใหม่ แต่เริ่มลดช่วงบวกลง โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 27,512.52 จุดเพิ่มขึ้น 50.41 จุด หรือ+0.18% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 3,082.18 จุดเพิ่มขึ้น 3.91 จุด หรือ +0.13% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท เคลื่อนไหวที่ 8,454.82 จุด เพิ่มขึ้น 21.62 จุด หรือ +0.26%

นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ในเดือนนี้ หลังจากสกุลเงินหยวนของจีนพุ่งขึ้นทะลุ 7 หยวนต่อดอลลาร์ และแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางจีนได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปีลงในวันนี้ ด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2559

ขณะที่โกลแมนด์ แซค มีความเชื่อมั่นว่า การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าระหว่างจีนและสหรัฐฯน่าจะอยู่ในระดับสูงสุดแล้ว และแผนการปรับขึ้นภาษีในเดือน ธ.ค.น่าจะไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ธนาคารเพื่อการลงทุน (investment bank) มองว่า ภาษีนำเข้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะอยู่ในระดับนี้ต่อไปจนถึงปี 2564 ซึ่งเท่ากับไม่ลดความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นลง.

ด้านตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงสู่ระดับ 5.25 หมื่นล้านเหรียญฯในเดือนก.ย. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 5.22 หมื่นล้านเหรียญฯ แต่ลดลงเมื่อจากระดับ 5.50 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. แต่ หากเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว สหรัฐขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนก.ย.

ขณะเดียวกัน สหรัฐขาดดุลการค้าต่อจีนลดลง 3.1% ในเดือนก.ย. สู่ระดับ 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์ และขาดดุลการค้าต่อสหภาพยุโรปจำนวน 1.57 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังเปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าลดลงสู่ระดับ 2.06 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. ส่วนการนำเข้าสินค้าลดลงสู่ระดับ 2.584 แสนล้านดอลลาร์

ราคาหุ้นบริษัทอูเบอร์ เทคโนโลยีส์ อิงค์ ดิ่งลง หลังจากที่บริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนสุทธิ 1.16 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาส 3 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขขาดทุน 986 ล้านเหรียญฯ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามรายได้ที่ประกาศออกมายังถือสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ โดยบริษัทมีรายได้ 3.81 พันล้านเหรียญฯสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 3.69 พันล้านเหรียญฯ

นักลงทุนยังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์จองนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมสภาคองเกรสเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐในวันที่ 13 พ.ย. ในเวลา 11.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.00 น.ตามเวลาไทย