ดาวโจนส์ยังคงตกต่อเนื่อง ร่วงกว่า 500 จุด หลังทรัมป์ส่งสัญญาณ

ดาวโจนส์ยังคงตกต่อเนื่อง ร่วงกว่า 500 จุด หลังทรัมป์ส่งสัญญาณชาวอเมริกันรับมือโศกนาฎกรรมที่จะมาถึง

  • นักวิเคราะห์ คาดเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบรุนแรงจากโควิด-19 อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
  • คาดการจ้างงานสหรัฐลดลง 10-15 ล้านตำแหน่ง หลังเดือนมี.ค.ตัวเลขจ้างงานลดงครั้งแรกในรอบ 10 ปี
  • นักลงทุนเทขายต่อเนื่อง วิตกการแพร่ระบาดโควิด-19 รุนแรง ตายแล้วกว่า 4,000 คน

เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 21,330.75 จุด
ลดลง 586.41 จุด หรือ -2.68% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 2,511.03 จุด ติดลบ 73.56 จุด หรือ -2.85%

ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 7,530.10 จุด ลดลง 170.00จุด หรือ -2.21%

ขณะนี้ สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก โดยมีจำนวน 189,592 ราย ขณะที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงถึง 4,070 คน มากกว่าจีน รองจากอิตาลี และสเปน

ทั้งนี้ นักลงทุน ยังคงเทขายต่อเนื่อง และแสดงความกังวลต่อ รายงานของทำเนียบขาว ที่ระบุว่า ชาวอเมริกันอาจเสียชีวิตจากโควิด-19 สูงถึง 100,000-240,000 ราย ขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งสัญญาณให้คนอเมริกันรับมือกับวันที่น่าสลดใจที่จะเกิดขึ้นข้างหน้านี้

โดยนักวิเคราะห์ ให้มุมมองว่า เศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน

โดยวันนี้ มีรายงานระบุว่า การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐหดตัวครั้งแรกรอบ 10 ปี

ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐลดลง 27,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 125,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 179,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ.

การจ้างงานในภาคบริการลดลง 18,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ส่วนการจ้างงานในภาคการผลิตลดลง 9,000 ตำแหน่ง โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นายมาร์ค แซนดี หัวหน้านักวิเคราะห์ของมูดี้ส์ อนาลิติกส์ กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่การจ้างงานของภาคเอกชนประสบภาวะหดตัว และคาดว่าการจ้างงานโดยรวมจะลดลง 10-15 ล้านตำแหน่ง

ด้านสมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยลดลง 11% ในสัปดาห์ที่แล้ว และดิ่งลง 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ดี จำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์พุ่งขึ้น 26% ในสัปดาห์ที่แล้ว และทะยานขึ้น 168% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว