ดาวโจนส์พุ่งกว่า 200 จุด เริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิดวันแรกให้ชาวสหรัฐฯ

.นักลงทุนขานรับความคาดหวังวัคซีนต้านโควิด-19 ฟื้นเศรษฐกิจ
.ไฟเซอร์ได้รับอนุมัติให้ฉีดวัคซีนชาวอเมริกันอย่างเป็นทางการเริ่มวันนี้
.ตลาดกังวลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกจล่าช้า-จับตาประชุมเฟด

เมื่อเวลา 21.33 น. ตามเวลาประเทศไทย เปิดตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งทันทีที่เปิดตลาด ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 30,246.66 จุด เพิ่มขึ้น 200.29 จุด หรือ +0.67% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 12,463.59 จุด เพิ่มขึ้น 85.72 จุด หรือ +0.69% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ3,687.04 จุด เพิ่มขึ้น 23.58 จุด หรือ +0.64%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯดีดตัวขึ้นทันที โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นเก็งกำไรแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะฟื้นตัวเร็วกว่าคาด
หละงสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ได้อนุมัติให้มีการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์และบริษัทไบโอเอ็นเทคเป็นกรณีฉุกเฉิน เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยการอนุมัติของ FDA จะทำให้รัฐบาลสามารถเริ่มแจกจ่ายวัคซีนของไฟเซอร์ให้กับรัฐและเมืองต่างๆ และมีการฉีดวัคซีนของไฟเซอร์ให้กับชาวอเมริกันอย่างเป็นทางการในสหรัฐวันนี้

ขณะที่นพ.อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐได้แจ้งทางบริษัทเพื่อขอเพิ่มการซื้อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 อีก 100 ล้านโดสในปี 2564

ด้านเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข ระบุว่า เตรียมฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ โดยจะมีการฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรสลับกันทั้งฝั่งรัฐบาล และรัฐสภา เริ่มตั้งแต่วันนี้ ต่อเนื่องไปเป็นเวลา 10 วัน เพื่อเลี่ยงไม่ให้บุคลากรที่เข้ารับการฉีดวัคซีนได้รับผลกระทบจากผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน

มาตรการดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในพยายามที่จะสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับวัคซีนให้กับประชาชน โดยข้อเสนอการฉีดวัคซีนให้กับบุคคลสำคัญในรัฐบาลครั้งนี้ เป็นไปตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยและเจ้าหน้าที่สาธาราณสุขและฝ่ายความมั่นคง ” ชาวอเมริกันควรมีความมั่นใจว่าพวกเขาได้รับวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ”

ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปกลุ่มแรกที่จะได้รับวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์และบริษัทไบโอเอ็นเทค ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และผู้มีความเสี่ยงสูง รวมถึง พนักงานที่ทำงานในสายการบิน ครู และผู้ที่ต้องมีการสัมผัสกับเนื้อสัตว์

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภายืนยันที่จะไม่ให้การสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ของเดโมแครต อย่างไรก็ตาม พรรครีพับลิกันและเดโมแครตมีความขัดแข้งเกี่ยวกับการจัดสรรเงินสนับสนุนรัฐต่างๆ รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือแก่ชาวอเมริกันที่ตกงาน และการจ่ายเช็คเงินสดแก่ประชาชนเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 15-16 ธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จากปัจจุบันที่ระดับ 8 หมื่นล้านหรียญสหรัฐต่อเดือน และการซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือน