ดาวโจนส์ปิดลบ 119 จุด จับตาพิษตะ วันออกกลางกระทบเศรษฐกิจ-การเมืองสหรัฐฯ

  • ราคาน้ำมันดิบเริ่มชลอตัวกดราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน
  • นักลงทุนจับตาสภาผู้แทนฯลงมติจำกัดอำนาจทรัมป์ทำสงครามอ่าว
  • มีแรงซื้อหุ้นเทคโนโลยี รับสหรัฐ-จีนจ่อลงนามการค้า

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ม7ม.ค.ที่ 28,583.68 จุด ลดลง 119.70 จุด หรือ -0.42% ดัชนีเอสแอนด์พี500 ปิดที่ 3,237.18 จุด ลดลง 9.10 จุด หรือ -0.28% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 9,068.58 จุด ลดลง 2.88 จุด หรือ -0.03%

นักลงทุนยังคงเทขายหุ้น หลังจากเริ่มมีความกังวลว่า ความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะบานปลายมากขึ้น และกระทบต่อภาวะความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการเมืองของสหรัฐฯ ขณะที่ราคาน้ำมันเริ่มชะลอตัว

โดยนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์มัลติ-พอร์ทโฟลิโอ โซลูชั่นส์ ในเมืองบอสตัน กล่าวว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น และเริ่มบานปลายกลายเป็นประเด็นการเมืองในสหรัฐ หลังจากสมาชิกพรรคเดโมแครตแสดงความไม่พอใจที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ขออนุมัติจากสภาคองเกรสก่อนที่จะสั่งโจมตีท่าอากาศยานกรุงแบกแดดของอิรัก เพื่อปลิดชีพนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่าน ซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับอิหร่านเป็นอย่างมาก

ตลาดรอดูท่าทีของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่เตรียมลงคะแนนเสียงในญัตติการจำกัดอำนาจของประธานาธิบดีทรัมป์ในกรณีการใช้ปฏิบัติการทางทหารต่ออิหร่านในอีกไม่กี่วันนี้ โดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า มาตรการยั่วยุของรัฐบาลปธน.ทรัมป์ทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐ, นักการทูต และชาวอเมริกันตกอยู่ในอันตราย

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.3% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 2.8% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 0.8%

หุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคร่วงลง โดยหุ้นเป๊ปซี่โค ดิ่งลง 1.57% หุ้นไทสัน ฟู้ดส์ ร่วงลง 1.45% หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (พีแอนด์จี) ลดลง 0.6% หุ้นเป๊ปซี่โค ร่วงลง 1.6% หุ้นโคคา-โคลา ลบ 0.75% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภค ปรับตัวลง 0.73%

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและผู้ผลิตชิปยังคงได้รับแรงหนุนจากคำสั่งซื้อ โดยหุ้นไมครอน เทคโนโลยี ทะยานขึ้น 8.8% หุ้น Nvidia ดีดขึ้น 1.2% หุ้นเฟซบุ๊ก บวก 0.2% หุ้นอเมซอนดอทคอม บวก 0.2% ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิป พุ่งขึ้น 1.8% โดยหุ้นกลุ่มนี้ได้อานิสงส์ที่ดีจากทิศทางการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกของจีนและสหรัฐในเดือนนี้ที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง

หุ้น FireEye Inc. ซึ่งเป็นบริษัทความมั่นคงด้านไซเบอร์ชั้นนำของสหรัฐ ทะยานขึ้น 3.2% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้น FireEye ขึ้นอีก 47% โดยเชื่อว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางจะช่วยเพิ่มยอดขายและรายได้ของบริษัท

ขณะที่ตัวเลจเศรษฐกิจสหรัฐฯยังออกมาดี โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.0 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 53.9 ในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 54.3

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยดิ่งลง 8.2% สู่ระดับ 4.31 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2559 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.38 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 4.69 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค