ดาวโจนส์ปิดตลาดบวก196 จุด ตัวเลขเศรฐกิจฟื้น-คลายกังวลโอมิครอน

.นักลงทุนซื้อหุ้นสะสม ก่อนหยุดยาวช่วงคริสต์มาส
.ตลาดคลายกังวลผลวิจัยโอมิครอน อาการไม่รุนแรง
.นักลงทุนมั่นใจตัวเลขเศรษฐกิจยังแสดงการฟื้นตัว

196.67 จุด หรือ +0.55%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,725.79 จุด เพิ่มขึ้น 29.23 จุด หรือ +0.62% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 15,653.37 จุด เพิ่มขึ้น 131.48 จุด หรือ +0.85%

นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นต่อเนื่อง คลายกังวลผลกระทบโอมิครอน หลังผลการวิจัยของอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน, มหาวิทยาลัยเอดินบะระแห่งสกอตแลนด์ และสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติของแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น มีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตา

นอกจากนี้ ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโอมิครอนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรครุนแรงน้อยกว่าผู้ที่ติดเชื้อไวรัสเดลตา

ทางด้านบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเปิดเผยผลการวิจัยล่าสุดระบุว่า วัคซีนเข็มบูสเตอร์ของบริษัทมีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน นอกจากนี้ ผลการวิจัยในห้องแล็บยังบ่งชี้ว่า ยาเอวูเชลด์ (Evusheld) ซึ่งเป็นยาแอนติบอดีแบบผสม (Antibody Cocktail) ของแอสตร้าเซนเนก้า สามารถลบล้างฤทธิ์ของไวรัสโอมิครอนได

นอกจากนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) อนุมัติยาโมลนูพิราเวียร (Molnupiravir) ของบริษัทเมอร์ค เป็นยารักษาผู้ป่วยโควิด-19 เมื่อวานนี้ ซึ่งนับเป็นยาตัวที่สองที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้รักษาผู้ป่วยโควิดในสหรัฐ หลังจากที่ FDA เพิ่งอนุมัติยาแพกซ์โลวิด (Paxlovid) ของบริษัทไฟเซอร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา

ข่าวความคืบหน้าดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจเช่นหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มโรงแรม โดยหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 0.67% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ บวก 0.43% หุ้นแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล พุ่งขึ้น 1.61% หุ้นลาสเวกัส แซนด์ส ทะยานขึ้น 4.23% หุ้นวินน์ รีสอร์ทส์ พุ่งขึ้น 3.51%

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นขานรับความหวังเกี่ยวกับการเปิดเศรษฐกิจเช่นกัน โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 1.25% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) บวก 1.02% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 2.01% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา บวก 0.35% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 0.71% หุ้นเจพีมอร์แกน บวก 0.36%

ขณะเดียวกัน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแสดงการฟื้นตัวของต่อเนื่อง ช่วยลดความมั่นใจให้นักลงทุนเะมขึ้น โดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวที่ระดับ 205,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป พุ่งขึ้น 2.5% ในเดือนพ.ย. หลังจากกระเตื้องขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนต.ค.

ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน และหากเทียบรายปี ดัชนี PCE พื้นฐานดีดตัวขึ้น 4.7% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ30ปี

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันศุกร์ที่ 24 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส