- นักลงทุนช้อนซื้อหุ้น รับความหวังเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว
- ตลาดรอลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯก็อก 2 หลังอียูตั้งกองทุนฟื้นฟูสำเร็จ
- บริษัทชั้นนำทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 หลายบริษัทดีกว่าคา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 21 ก.ค.ที่ 26,840.40 จุด เพิ่มขึ้น 159.53 จุด หรือ +0.60% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,257.30 จุด เพิ่มขึ้น 5.46 จุด หรือ +0.17% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 10,680.36 จุด ลดลง 86.73 จุด หรือ -0.81%
แรงหนุนจากการที่ผู้นำ 27 ชาติของ EU ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.55 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจ EU จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่ดีต่อการฟื้นตัวของเศรฐกิจทั่วโลก
ขณะเดียวกันก็จับตาการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ของสหรัฐ เนื่องจากโครงการช่วยเหลือคนว่างงานจะหมดอายุลงในวันที่ 31 ก.ค.นี้
นักวิเคราะห์จากบริษัทเชส อินเวสต์เมนท์ คอนเซล ในรัฐเวอร์จิเนีย แสดงความเห็นว่า นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่ปรับตัวตามวัฎจักรเศรษฐกิจ เช่นหุ้นกลุ่มธนาคาร กลุ่มพลังงาน และกลุ่มอุตสาหกรรม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความหวังที่ว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรปจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 รวมทั้งหุ้นที่ประกาศผลประกอบการดีเกินคาดหมาย
หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 3.53% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3.17% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 2.17% ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงาน หุ้นเชฟรอน ทะยานขึ้น 7.18% พุ่งขึ้น 5.06% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 6.79% เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 2.47% หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 2.41% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ บวก 0.85% หุ้น 3M ปรับตัวขึ้น 0.91%
หุ้นโคคา โคล่า พุ่งขึ้น 2.34% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสูงเกินคาดในไตรมาส 2 นอกจากนี้ บริษัทยังเชื่อมั่นว่าอุปสงค์ในผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะพุ่งขึ้น หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์
หุ้นล็อกฮีด มาร์ติน ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและค้าอาวุธรายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและยอดขายที่สูงเกินคาดในไตรมาส 2 และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2563
หุ้นอินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส แมชชีน (IBM) ปิดตลาดขยับลง 0.25% หลังจากทะยานขึ้นเกือบ 4% ในระหว่างวัน จากการเปิดเผยตัวเลขกำไรในไตรมาส 2 ที่ระดับ 2.18 ดอลลาร์/หุ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.07 ดอลลาร์/หุ้น
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทชั้นนำของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ไมโครซอฟท์, เทสลา, อินเทล และเวริซอน คอมมิวนิเคชัน
