ดาวโจนส์ปรับลดลงกว่า 80 จุด นักลงทุนขายหุ้นทำกำไร หลังผลเฟดเป็นไปตามคาด

.ดัชนีดาวโจนส์ปรับฐาน หลังธนาคารกลางสหรัฐเผยแผนทยอยลด QE ตั้งแต่เดือนนี้ตามคาด
.ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงต่ำสุดตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดโควิด-19
.นักลงทุนขายหุ้นลดความเสี่ยง จับตาการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังลดมาตรการกระตุ้น

เมื่อเวลาประมาณ 21.55 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 36,075.05 จุด ลดลง
82.53 จุด หรือ -0.23% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 15,944.59 จุด เพิ่มขึ้น 133.01 จุด หรือ +0.84%
ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,678.14 จุด เพิ่มขึ้น 17.57 จุด หรือ +0.38%

ตลาดหุ้นปรับฐาน หลังจากเพิ่มขึ้นในวันก่อนหน้า ขานรับผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ ประกาศว่าจะทยอยปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งส่งสัญญาณว่าเฟดยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

ทั้งนี้ ราคาหุ้นของบริษัทเมอร์ค แอนด์ โค ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ พุ่งขึ้นเกือบ 2% ในการซื้อขายวันนี้ รับข่าวสหราชอาณาจักรให้การอนุมัติการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์เป็นประเทศแรกของโลก

ส่วนราคาหุ้นของบริษัทโมเดอร์นา อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยารายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลงกว่า 16% หลังจากที่บริษัทเปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 3 ขณะที่ปรับลดคาดการณ์ยอดขายวัคซีนต้านโควิด-19 ในปีนี้

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 14,000 ราย สู่ระดับ 269,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 275,000 ราย และต่ำกว่า 300,000 รายเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน