ดาวโจนส์ปรับฐานร่วง119จุด ห่วงตัวเลขคนว่างงานกลับมาพุ่ง

.ตลาดหุ้นสหรัฐปรับฐาน กังวลเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า
.ผิดหวังตัวเลขคนว่างงานกลับมาพุ่งสูงเกินคาด
.นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีต่อเนื่อง- จับตาไต่สวนหุ้นGameStop

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 18ก.พ ที่ 31,493.34 จุด ลดลง 119.68 จุด หรือ -0.38% ดัชนีเอสแอนด์พึ 500 ปิดที่ 3,913.97 จุด ลดลง 17.36 จุด หรือ -0.44% และดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 13,865.36 จุด ลดลง 100.14 จุด หรือ -0.72%

ตัวเลขคนว่างงานที่กลับมาเพิ่มสูงขึ้น ทำให้นักลงทุนกังวลการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 861,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 773,000 ราย

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานวดัชนีราคานำเข้าว่า พุ่งขึ้น 1.4% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2555 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนธ.ค. นอกจากนี้ ดัชนีราคานำเข้าเดือนม.ค.ยังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1%

นักวิเคราะห์จากบริษัทคอมมอนเวลธ์ ไฟแนนเชียล เน็ตเวิร์ก ในเมืองบอสตันของสหรัฐกล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เฟดยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน นอกจากนี้ ความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูง หลังจากที่หุ้นเหล่านี้ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นแอดวานซ์ ไมโคร ดีไวเซส (AMD) ร่วงลง 1.45% หุ้นเทสลา ดิ่งลง 1.35% หุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 0.86% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 0.6% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ ลดลง 0.57% หุ้นอินเทล ปรับลง 0.4%

หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 1.53% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวเฟซบุ๊กปิดกั้นไม่ให้ผู้ใช้งานในออสเตรเลียสามารถเข้าถึงข่าวสารทั้งหมด เพื่อตอบโต้รัฐบาลออสเตรเลียที่พยายามเร่งให้มีการบังคับใช้กฎหมาย Media Code กับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น กูเกิลและเฟซบุ๊ก ให้จ่ายเงินให้กับสื่อท้องถิ่นเมื่อมีการนำคอนเทนต์ไปใช้

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.27% โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดิ่งลง 3.38% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.57% หุ้นเชฟรอน ลดลง 0.96% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 4.72%

หุ้นวอลมาร์ท ดิ่งลง 6.67% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาส 4/2563 อยู่ที่ 1.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่

หุ้น GameStop ร่วงลง 11.43% ท่ามกลางการจับตาของนักลงทุนจ กรณีสภาคองเกรสเปิดฉากไต่สวนกลุ่มบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในปรากฎการณ์ GameStop ที่สร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นวอลล์สตรีทก่อนหน้านี้