ดาวโจนส์บวก 85 จุด แรงหนุนคนว่างงานลด-จับตาการส่งมอบวัคซีนต้านโควิด-19ล่าช้า

  • ตัวเลขคนว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 712,000 รายต่ำสุดตั้งแต่มีโควิด-19
  • ตลาดกังวลหลังไฟเซอร์คาดจัดส่งวัคซีนต้านโควิด-19 ได้50 ล้านโดส ต่ำกว่าเป้าเดิมครึ่งหนึ่ง
  • จับตาการออกมาตรการชุดใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 3ธ.ค.ที่ 29,969.52 จุด เพิ่มขึ้น 85.73 จุด หรือ +0.29% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,666.72 จุด ลดลง 2.29 จุด หรือ -0.06% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 12,377.18 จุด เพิ่มขึ้น 27.81 จุด หรือ +0.23%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯได้แรงหนุนจากตัวเลขคนว่างงานที่ดีขึ้น โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 712,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 780,000 ราย

ขณะที่มีความหวังในการออกมาตรการชุดใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา และนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้ร่วมกันผลักดันให้มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ในวงเงิน 9.08 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์อ่อนแรงลงในเวลาต่อมา หลังจากบริษัทไฟเซอร์คาดการณ์ว่า ทางบริษัทจะสามารถจัดส่งวัคซีนต้านโควิด-19 ได้เพียง 50 ล้านโดสเท่านั้นในปีนี้ ซึ่งลดลงครึ่งหนึ่งจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะจัดส่งได้ 100 ล้านโดส เนื่องจากมีปัญหาเกี่ยวกับซัพพลายเชน รวมทั้งพบว่าการขนส่งวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตวัคซีนนั้น ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐาน

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นไฟเซอร์ ร่วงลง 1.72%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 2.33% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 3.08% หุ้นเอ็กซอน โมบิล บวก 0.7% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ทะยานขึ้น 3.15%

นักลงทุนยังซื้อหุ้นที่คาดว่าจะดีขึ้นตามเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยหุ้นแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นไฮแอท โฮเทลส์ คอร์ปอเรชั่น ปรับตัวขึ้น 1.28% หุ้นฮิลตัน เวิลด์ไวด์ โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 2.26% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ทะยานขึ้น 8.13%

หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 5.99% ขานรับข่าวสายการบินไรอันแอร์ เพิ่มคำสั่งซื้อเครื่องบินโบอิ้ง MAX 737 อีก 75 ลำ

หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 4.32% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเทสลาขึ้นสู่ระดับ “buy” เนื่องจากหุ้นเทสลาจะได้รับการคำนวณในดัชนี S&P 500 ในวันที่ 21 ธ.ค.นี้

ด้านสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 55.9 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. จากระดับ 56.6 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 56.0

%%%%%%%