- นักลงทุนเทขายหุ้นลดความเสี่ยง หลังตลาดหุ้นขึ้นแรงติดต่อกัน 2 วัน
- ตลาดคาดไบเดนขึ้นประธานาธิบดี แต่รีพับรีกันยังคงคุมคองเกรส
- ตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่สูงกว่าคาดในเดือนต.ค.ช่วยพยุงดัชนีไม่ให้ร่วงแรง
เมื่อเวลา 22.45 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวในแดนลบเล็กน้อย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 28,323.68 จุด ลดลง 66.50 จุด หรือ -0.23% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,836.45 จุด ลดลง 54.48 จุด หรือ -0.46% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,503.75 จุด ลดลง 6.70 จุด หรือ -0.19%
นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร หลังดัชนีหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นแรงติดต่อกัน 2 วัน โดยรอความชัดเจนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และการเลือกตั้งในสภาคองเกรส
สำนักข่าวบลูมเบิร์กและเอพีรายงานว่า นายโจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต ยังคงมีคะแนนนำประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) 264 เสียง โดยล่าสุด นายไบเดนกำลังมีคะแนนนำประธานาธิบดีทรัมป์ใน 4 รัฐ ทำให้เขาได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งมากเกินพอสำหรับการก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ทั้งนี้ นายไบเดนได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (Electoral Vote) 264 เสียง ขณะที่ปธน.ทรัมป์ได้ 214 เสียง โดยนายไบเดนต้องการอีกเพียง 6 เสียงเท่านั้นก็จะได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งหรือ 270 เสียงจากทั้งหมด 538 เสียง เพื่อชนะการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อให้มีการตรวจสอบผลการนับคะแนนในทุกรัฐที่นายไบเดนได้รับชัยชนะ โดยอ้างว่ามีการโกงเลือกตั้ง แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าการโกงเลือกตั้งดังกล่าวได้เกิดขึ้นในรัฐใด และไม่ได้แสดงหลักฐานการทุจริตที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ แม้นายไบเดนจะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่ตลาดหวังว่าพรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ซึ่งจะทำให้นโยบายการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลของนายไบเดนอาจไม่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส ทำให้บริษัทจดทะเบียนยังคงได้รับประโยชน์จากนโยบายลดอัตราภาษีของรัฐบาลทรัมป์ต่อไป
นอกจากนี้ การถ่วงดุลอำนาจดังกล่าว จะช่วยลดโอกาสที่รัฐบาลของนายไบเดนจะทำการออกมาตรการคุมเข้มสถาบันการเงิน และบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐฯด้วย
นอกจากนั้น ตลาดได้แรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่สูงกว่าคาดในเดือนต.ค. โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 638,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 530,000 ตำแหน่ง โดยอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.9% ในเดือนต.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 7.7% หลังจากแตะระดับ 7.9% ในเดือนก.ย.
