ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 300 จุด นักลงทุนเทขายลดความเสี่ยง กังวลเลือกตั้ง-โควิดรอบใหม่

  • ตลาดผิดหวังผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ทำให้เทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
  • ขณะที่มีความชัดเจนว่าจะไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี
  • ตลาดจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.-โควิด-19 พุ่งไม่หยุด

เมื่อเวลา 21.25 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวผันผวน ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 26,349.84
จุด ลดลง 309.27 จุด หรือ -1.16% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 10,933.30 จุด ลดลง 252.29 จุด หรือ -2.26% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,262.84 จุด ลดลง 47.27 จุด หรือ -1.43%

นักลงทุนเทขายหุ้นก่อนสุดสัปดาห์เพื่อลดความเสี่ยง หลังตลาดผิดหวังผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ รวมทั้งยังมีความกังวลต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19ที่พุ่งขึ้น ทำให้หลายประเทศในยุโรปใช้มาตราการล็อกดาวน์อีกครั้ง ประกอบการความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งสหรัฐในสัปดาห์หน้า รวมทั้งความล่าช้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

ดัชนีความผันผวน CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาด พุ่งขึ้นแตะระดับ 41.2 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.

หุ้นในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีต่างดิ่งลง ท่ามกลางความผิดหวังต่อการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทแอปเปิล อิงค์, เฟซบุ๊ก อิงค์ และแอมะซอน

แอปเปิล อิงค์ เปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2563 อยู่ที่ 6.47 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเพียง 1% เมื่อเทียบรายปี โดยมีสาเหตุมาจากรายได้จากยอดขาย iPhone อยู่ที่ 2.644 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 20.7% เมื่อเทียบรายปี และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.793 หมื่นล้านดอลลาร์

เฟซบุ๊ก อิงค์ เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3/2563 ที่ระดับ 2.71 เซนต์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1.91 เซนต์ แต่จำนวนผู้ใช้งานรายวันของเฟซบุ๊กในสหรัฐและแคนาดา ลดลงสู่ระดับ 196 ล้านรายต่อวันในไตรมาส 3 จากระดับ 198 ล้านรายต่อวันในไตรมาส 2

ส่วนแอมะซอน (Amazon) เปิดเผยรายได้อยู่ที่ระดับ 9.615 หมื่นล้านดอลลาร์ พุ่งขึ้น 37% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่นักลงทุนผิดหวังที่บริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์รายได้ไตรมาส 4 ในกรอบกว้าง โดยระบุว่า รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 4 จะอยู่ที่ 1-4.5 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าบริษัทจะมีต้นทุนในการรับมือกับโรคโควิด-19 ที่ระดับราว 4 พันล้านดอลลาร์

นักลงทุนไม่มั่นใจสถานการณ์เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน โดยจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ขณะที่นายมิทช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ ประกาศเลื่อนการเปิดประชุมวุฒิสภาเป็นวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งทำให้พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.อย่างแน่นอนแล้ว

ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังพบว่าตัวเลขเฉลี่ย 7 วันของผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์นี้

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.0% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนส.ค.โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลังจากมีการปิดเศรษฐกิจเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งทำให้มีการปิดร้านค้าต่างๆ ส่งผลให้มีผู้ตกงานจำนวนมาก และฉุดอุปสงค์ในการใช้จ่ายสินค้า

อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากดีดตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค.