ดาวโจนส์กลับมาเปิดแดนบวกกว่า 100 จุด ตอบรับความคืบหน้าวัคซีน-ผลประกอบการดีกว่าคาด

  • สหรัฐฯเปิดตัวโครงการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ในมนุษย์ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก
  • บริษัท 81% จากบริษัทที่ประกาศผลประกอบการแล้วในตลาดหุ้นเอสแอนด์พีออกมาดีเกินคาด
  • ตลาดจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่-ราคาทองทำลายสถิติสูงสุดอีกรอบ

เมื่อเวลา 21.10 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 26,574.93 จุด เพิ่มขึ้น 105.04 จุด หรือ +0.40% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่10,480.06 จุด เพิ่มขึ้น 116.89 จุด หรือ +1.13% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,233.05 จุด เพิ่มขึ้น 17.42 จุด หรือ +0.54%

นักลงทุนจับตาการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทชั้นนำที่ยังไม่ประกาศออกมา อย่างไรก็ตาม 128 บริษัทในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ได้ประกาศผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว มีจำนวน 81% ที่มีผลประกอบการสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอีกครั้ง หนุนดัชนีแนสแด็กฯ ให้ปรับตัวขึ้น

ตลาดตอบรับความคืบหน้าของการผลิตวัคซีน โดยสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ (NIH) และบริษัท Moderna ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐ เปิดตัวโครงการทดลองวัคซีนต้านโควิด-19 ในมนุษย์ครั้งใหญ่ที่สุดของโลกในวันนี้ โดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการถึง 30,000 คน
นอกจากนี้ เครือข่ายป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 (CPN) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ จะเปิดตัวโครงการทดสอบวัคซีนตัวใหม่ทุกเดือนจนถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วง โดยทุกโครงการจะมีอาสาสมัครรายใหม่จำนวน 30,000 คน และในที่สุด นักวิทยาศาสตร์จะทำการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละตัวที่มีการทดสอบ

โดยตามกำหนดการ มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดจะทดสอบวัตซีนของตัวเองในเดือนส.ค. ขณะที่วัคซีนจากบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะมีการทดสอบในเดือนก.ย. ส่วนในเดือนต.ค.จะมีการทดสอบวัคซีนของบริษัท Novavax ขณะที่บริษัทไฟเซอร์เตรียมทดสอบวัคซีนในช่วงฤดูร้อนนี้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของสหรัฐ โดยติดตามผลการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ โดยคาดว่าจะมีวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากโครงการช่วยเหลือคนว่างงานจะหมดอายุลงในวันที่ 31 ก.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความกังวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ราคาทองคำ ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยยอดนิยม พุ่งทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งในวันนี้ โดยนักลงทุนพากันเข้าซื้อทองคำจากงความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน
นายวิเวค ดาร์ นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จากธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์กล่าว ราคาทองสามารถพุ่งขึ้นทะลุระดับ 2,000 ดอลลาร์ในปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจ และปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองแต่เขาเองยังไม่แน่ใจว่าราคาทองคำจะไปต่อได้แค่ไหนหลังจากนั้น