“ดับบลิวเอชเอ” เกาะเทรนด์ “เมตาเวิร์ส” เล็งพัฒนา “เมตาดับบลิว” ต่อยอดธุรกิจ

  • อาจซื้อที่ดินผืนหนึ่งบนแซนด์บ็อกซ์
  • แล้วลงทุน เช่น โลจิสติกส์ สุขภาพ เป็นต้น
  • ตั้งงบลงทุน 5 หมื่นล้าน สำหรับ 5 ปี

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนใน “เมตาเวิร์ส” เป็นหนึ่งในสิ่งที่บริษัทกำลังเตรียมการด้วยการศึกษาความเป็นไปได้หลายอย่าง โดยโครงการที่ดำเนินการอยู่นั้นมีชื่อเรียกว่า “เมตาดับบลิว” โดยอาจซื้อที่ดินผืนหนึ่งบนแซนด์บ็อกซ์แล้วให้ลงทุนในนั้น ตั้งแต่ด้านนิคมอุตสาหกรรม โลจิสติกส์ และธุรกิจสุขภาพ

นอกจากจะมองเมตาเวิร์สในภาคธุรกิจแล้ว ยังมองถึงการใช้ชีวิตของผู้คนในอนาคต เช่น การสร้างโลกเสมือนจริงที่ใช้เป็นพื้นที่พบปะเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องไลฟ์สไตล์ รวมทั้งสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของคนหลายกลุ่ม อาทิ การทำกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุ สร้างสวนสาธารณะเป็นที่นัดพบ หรือสถานที่เพื่อการศึกษา เพื่อสร้างสังคมที่ลดข้อจำกัดในการเดินทางและความไร้พรมแดน

“เรามองปี 2565 ด้วยความมั่นใจและในด้านบวก เพราะเชื่อว่าข้อจำกัดต่างๆ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเริ่มคลี่คลาย โดยเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว”

สำหรับทิศทางการลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้า จะเดินหน้ากระบวนการทรานสฟอร์มธุรกิจทุกฮับให้เป็นดิจิทัลต่อไป โดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะและนวัตกรรม อาทิ ระบบ AI IoT Big Data ระบบอัตโนมัติ และวิทยาการหุ่นยนต์ มาปรับใช้งานเพื่อยกระดับการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

โดยได้ริริ่มไปแล้ว 33 โครงการ ครอบคลุมธุรกิจของบริษัทฯ ทุกด้าน เพื่อสร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์และบริการ รวมทั้งใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการหาแหล่งรายได้ใหม่และการใช้ข้อมูลเพื่อสร้างความได้เปรียบการแข่งขัน

สำหรับงบลงทุน 50,000 ล้านบาท ที่ตั้งไว้สำหรับ 5 ปี ประกอบด้วย งบลงทุนธุรกิจโลจิสติกส์ 18,000 ล้านบาท ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม 18,000 ล้านบาท ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน 10,000 ล้านบาท และอีก 4,000 ล้านบาท ลงทุนธุรกิจดิจิทัล ธุรกิจสตาร์ทอัพและเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะและทรานสฟอร์มองค์กรสู่บริษัทเทคโนโลยีอย่างสมบูรณ์

“เราเรียกแผนนี้ว่า Mission to the Sun หรือ ภารกิจสู่ดวงอาทิตย์ มุ่งเป้าไปยังจุดหมายที่คนอื่นยังไม่เคยไปสำรวจมาก่อน โดยจะนำพลังงานหรือข้อมูลที่ได้มาระหว่างทางมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด”