ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคก.ค. ลดลงรอบ 14 เดือน กังวลปัจจัยลบการเมือง

ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคก.ค. ลดลงรอบ 14 เดือน ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผย ปัจจัยลบ กังวลตั้งรัฐบาล เสถียรภาพทางการเมือง

  • ผู้บริโภคกังวลว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ช้า
  • และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ค.2566 อยู่ที่ระดับ 55.6 ปรับตัวลดลงจากเดือนมิ.ย. ซึ่งอยู่ที่ระดับ 56.7 โดยเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรกในรอบ 14 เดือน ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม เดือนก.ค.2566 อยู่ที่ระดับ 50.3 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน อยู่ที่ 52.7 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 63.9 โดยดัชนีทุกตัวปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้า

สำหรับปัจจัยลบที่สำคัญ คือ ความกังวลต่อความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ, ผู้บริโภคกังวลว่าเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ช้า และปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง, คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% เป็น 2.00%, สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจปีนี้ ลงเหลือ 3.5% จากเดิม 3.6% จากผลของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่อาจจะกระทบต่อการส่งออกไทยในช่วงครึ่งปีหลัง, ความกังวลต่อภาวะภัยแล้ง และเอลนิโญ ตลอดจนสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังมีความไม่แน่นอน

ขณะที่ปัจจัยบวก ได้แก่ จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นหลังการเปิดประเทศ ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในภูมิภาค และมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น, ราคาพืชผลทางการเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น , ราคาน้ำมันดีเซลในประเทศยังทรงตัว, เงินบาทแข็งค่า สะท้อนว่ามีการไหลเข้าสุทธิของเงินตราต่างประเทศ