ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปรับลง 105 จุดกังวลเจรจาการค้าไม่คืบหน้า-ผลประชุมเฟด

  • นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอผลประชุมเฟดวันที่ 10-11 ธ.ค.นี้
  • คาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยอีกรอบดันเศรษฐกิจสหรัฐผ่านสงครามการค้า
  • ข่าวแบนซอฟท์แวร์สหรัฐฯของจีน ทำหุ้นแอปเปิ้ลร่วง 1.4%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 9 ธ.ค.ที่ 27,909.60 จุด ลดลง 105.46 จุด หรือ -0.38% ดัชนีเอสแอนดืพี 500 ปิดที่ 3,135.96 จุด ลดลง 9.95 จุด หรือ -0.32% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท ปิดที่ 8,621.83 จุด ลดลง 34.70 จุด หรือ -0.40%

นักลงทุนยังคงวิตกกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 15 ธ.ค. ซึ่งสหรัฐฯกำหนดจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 15% จากสินค้าจีนวงเงิน 1.56 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด จะสามารถตกลงกันได้ก่อนหน้านั้น เพื่อยกเว้นการเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่นี้หรือไม่ ขณะที่มีรายงานข่าวระบุว่า จีนอาจจะแบนเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างชาติ และองค์การระหว่างประเทศ ที่ใช้ซอฟท์แวร์ของสหรัฐฯ

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังชะลอการลงทุนเพื่อรอการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ในวันที่ 10-11 ธ.ค.นี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีนี้ ทั้งนี้นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นดัชนีหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของเฟด

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งอ่อนไหวต่อความกังวลเกี่ยวกับการค้าสหรัฐ-จีน ร่วงลงต่อเนื่อง หุ้นแอปเปิล ลบ 1.40% จากความกัวลเรื่องการแบนซอฟท์แวร์ของสหรัฐฯ

ขณะที่กลุ่ม เฮลธ์แคร์ ปรับตัวลดลงเช่นกัน นำโดย หุ้นเมอร์ค ปรับตัวลง 0.15% หลังเมอร์คเปิดเผยว่าจะซื้อกิจการของบริษัท ArQule Inc ของสหรัฐ ซึ่งพัฒนายารักษาโรคมะเร็ง เป็นเงิน 2.7 พันล้านดอลลาร์

หุ้น 3M ลดลง 0.96% หลังซิตี้กรุ๊ป ปรับลดคำแนะนำลงทุนหุ้น 3M จาก “ซื้อ” เป็น “ลงทุนปานกลาง”