ดัชนีดาวโจนส์สดใส บวก 222 จุด ปิดทะลุระดับ 28,000 จุดเป็นครั้งแรก

  • นักลงทุนหวังการเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯ ตกลงกันสำเร็จ
  • ตัวเลขค้าปลีกพุ่ง ช่วยความเชื่อมั่นเศรษฐกิจสหรัฐฯ
  • หุ้นอุตสาหกรรมดีดตัวช่วยหนุนตลาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 15 พ.ย.เหนือระดับ 28,000 จุดเป็นครั้งแรก โดยดัชนีปิดที่ 28,004.89 จุด เพิ่มขึ้น 222.93 จุด หรือ +0.80%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 33,120.46 จุด เพิ่มขึ้น 23.83 จุด หรือ +0.77% และดัชนี แนสแด็ก คอมโพซิท ปิดที่ 8,540.83 จุด เพิ่มขึ้น 61.81 จุด หรือ +0.73%

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P 500 ปิดบวก หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์นำตลาดพุ่งขึ้น 2.2% โดยหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป พุ่ง 5.3%, หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน พุ่ง 3.04% และหุ้นไฟเซอร์ พุ่ง 2.0%หุ้นแอพพลายด์ แมทีเรียลส์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิป พุ่งขึ้น 9.0% หลังคาดการณ์รายได้และผลกำไรไตรมาสแรกสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้นขานรับความหวังในการทำข้อตกลงการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ หลังนายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว เปิดเผยว่า การเจรจาทำข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับจีนกำลังเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายยังคงติดต่อกันอย่างใกล้ชิดโดยหุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ บวก 1.30% และ หุ้นโบอิ้ง เพิ่มขึ้น 1.18%

นอกจากนั้น การเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นเกินคาดยังเป็นแรงหนุยตลาดให้ปรับเพิ่มขึ้น โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.2% เมื่อเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนต.ค.

ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนก.ย.

ส่วนการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอื่นๆ นั้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ปรับตัวลง 1.1 จุด สู่ระดับ 2.9 ในเดือนพ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าดัชนีจะปรับตัวสู่ระดับ 5.0 ในเดือนพ.ย.

นอกจากนี้ เฟดยังรายงานว่า ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐดิ่งลง 0.8% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 0.4% หลังจากลดลง 0.3% ในเดือนก.ย.