ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบ 205 จุด กังวลมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ล่ม

  • นักลงทุนกังวลการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ล่าช้า
  • พรรครีพับลิกัน-เดโมแครต เห็นไม่ตรงกันช่วยเอกชนไม่ให้ถูกฟ้องกรณีหนี้สิน
  • ตลาดผิดหวังดัชนีความเชื่อมั่นเอกชนร่วง-ผลประกอบการบริษัทต่ำคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 28 ก.ค. ที่ 26,379.28 จุด ลดลง 205.49 จุด หรือ -0.77% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,218.44 จุด ลดลง 20.97 จุด หรือ -0.65% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 10,402.09 จุด ลดลง 134.18 จุด หรือ -1.27%

นักลงทุนขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง หลังตลาดได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของสหรัฐ หลังพรรครีพับลิกัน ได้นำเสนอรายละเอียดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยระบุว่า มาตรการฉบับใหม่นี้จะมุ่งเน้นในการช่วยเหลือเด็กๆ และพนักงานให้กลับเข้าเรียนในโรงเรียนและกลับไปที่ทำงานอีกครั้ง รวมทั้งจะช่วยปกป้องบริษัทเอกชนไม่ให้ถูกฟ้องร้องทางกฎหมายเกี่ยวกับหนี้สิน

แต่ พรรคเดโมแครตได้คัดค้านข้อเสนอการปกป้องบริษัทเอกชนไม่ให้ถูกฟ้องร้องทางกฎหมายเกี่ยวกับหนี้สิน นอกจากนี้ ทั้งสองพรรคยังมีความเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับวงเงินช่วยเหลือผู้ว่างงาน ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 31 ก.ค.นี้ โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้รักษาวงเงินดังกล่าวเอาไว้ที่ระดับ 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ แต่พรรครีพับลิกันต้องการให้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 200 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์

ตลาดหุ้นสหรัฐ ยังได้รับปัจจัยลบหลังจากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 92.6 ในเดือนก.ค. จากระดับ 98.3 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 94.5 รวมทั้งผิดหวังกับผลประกอบการบริษัทชั้นนำที่ประกาศออกมาวันนี้

หุ้น 3M ซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและสินค้าผู้บริโภครายใหญ่ ร่วงลง 4.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ในไตรมาส 2 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

เช่นเดียวกับ หุ้นแมคโดนัลด์ ดิ่งลง 2.49% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามทิศทางราคาน้ำมัน โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 1.18% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 2.12% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ลดลง 1.68% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม ร่วงลง 2.1%

อย่างไรก็ดี หุ้นไฟเซอร์ พุ่งขึ้น 3.94% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 2 และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปีงบการเงิน 2563

นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงแอปเปิล อิงค์, อเมซอนดอทคอม อัลฟาเบท และเฟซบุ๊ก

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธที่ 29 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 30 ก.ค.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมครั้งนี้