“ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์”นั่งผู้ว่าการททท.เริ่ม 1 ก.ย.66

  • .ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ นั่ง “ผู้ว่าการททท.” เรียบร้อยแล้วหลังบอร์ดสั่งลงนามสัญญาจ้างสมบูรณ์เริ่ม 1 ก.ย.66 เป็นต้นไป
  • .เปิดภารกิจขานรับนโยบายรัฐบาลใหม่นายก“เศรษฐาทวีสิน” นำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยปี’67ทำรายได้ 3 ล้านล้านบาทผงาด 2 ฮับเวลเนสโลกและเอนเตอร์เทนเมนท์เอเชีย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (บอร์ด ททท.) ที่มีนายโชติ ตราชู เป็นประธาน ได้ดำเนินการเซ็นสัญญาจ้าง น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ เป็นผู้ว่าการ ททท.คนใหม่ ในวัย 49 ปี (เกิดเมื่อ 1 ธันวาคม 2517) เริ่มปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งได้ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป โดยได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 270,000 บาท แทน ดร.ยุทธศักดิ์ สุภสร ซึ่งหมดวาระผู้ว่าการแล้วเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2566 หลังจากนั่งอยู่ในตำแหน่งต่อเนื่องรวมทั้งหมด 8 ปี 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท.คนใหม่เปิดเผย JNC : The Journalistclub ว่า พร้อมปฏิบัติหน้าที่สานต่อการนำอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศสู่ความเป็นเลิศทางการตลาดในเวทีโลก ควบคู่กับยกระดับไทยเป็นศูนย์กลาง (Hub) มหานครการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพองค์กร (Health & Wellness) ของโลกและศูนย์กลางเอนเตอร์เทนเมนท์แห่งเอเชีย (Entertainment Hub of Asia) ตามนโยบายรัฐบาลใหม่ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ต่อเนื่องจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งผู้นำรัฐบาลทั้งชุดเก่าและใหม่ต่างก็ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศเป็นลำดับต้น ๆ ในการทำหน้าที่เป็นเสาหลักสร้างรายได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยกลับมาแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว

โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลใหม่มีนโยบายมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนของไทยร่วมมือกันนำรายได้เข้าประเทศจากตลาดต่างประเทศทั่วโลกและตลาดในประเทศ ซึ่งมีโจทย์ความท้าทายในปี 2567 จะต้องพยายามทำให้ได้ถึงปีละ 3 ล้านล้านบาท ซึ่ง ททท.พร้อมจะผนึกความร่วมมือกันพันธมิตรทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและทั่วโลกยกระดับการท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืนและเป็นเมืองศูนย์กลางสุขภาพของโลกควบคู่กันไป 

ปัจจุบันประเทศไทยมีทุนทางวัฒนธรรมเป็นจุดแข็งสำคัญผนวกกับคนไทยมีอัธยาศรัยไมตรีที่ดียิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมต้อนรับและให้บริการนักท่องเที่ยวซึ่งมีความโดดเด่นแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ  เป็นกลไกที่จะช่วยให้การฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาเติบโตอย่างรวดเร็วได้ 

ขณะเดียวกันก็จะนำ ททท.เร่งทำงานเชิงบูรณาการสนับสนุนการปลดล็อกความยุ่งยากให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศสามารถลดขั้นตอนความยุ่งยากการเดินทางเข้าเมืองไทยโดยยึดหลักความมั่นคงปลอดภัยตามนโยบายรัฐบาล ต่อเนื่องถึงการให้ความสำคัญกับบุคลากรเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การยกระดับสนามบินนานาชาติของไทยเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อเที่ยวบินของสายการบินนานาประเทศ

นางสาวฐาปนีย์กล่าวว่า ทันทีที่เข้าปฏิบัติงานทำหน้าที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเร่งวางแผนสานต่อกิจกรรมโครงการท่องเที่ยวของ ททท.ตามแผนการตลาดปี 2567 และตามนโยบายรัฐบาลใหม่ ซึ่งจะทยอยนำเสนออย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีทีมบริหาร พนักงานในองค์กร ร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง พร้อมทั้งมีธุรกิจเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกกลุ่มสนับสนุนเป็นอย่างดีมาตลอด

สำหรับ “นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” มีประวัติการทำงาน ใน ททท.มาแล้ว 24 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2542 ตำแหน่งพนักงานวิเทศสัมพันธ์ 4 กองวิเทศสัมพันธ์ ฝ่ายสำนักงานผู้ว่าการ ก่อนจะเติบโตในหน้าที่มาตามขั้นตอนกระทั่งปี 2558 เป็นผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว จากนั้นปี 2561 เป็นผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว ปี 2562 เป็นรองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว ปี 2564 ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ และตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการ ททท.คนใหม่ เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ในรอบ 63 ปี “ททท.มีผู้ว่าการหญิง” จากอดีตจนถึงปัจจุบันรวมแล้ว 3 คน ได้แก่ คนที่ 1 นางจุฑามาศ ศิริวรรณ คนที่ 2 นางพรศิริ มโนหาญ ล่าสุดคนที่ 3  นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ 

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen