“ชาดา” ลั่นพร้อมส่งรายชื่อบัญชีมาเฟีย สิ้นเดือน ต.ค.นี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยพร้อมด้วยนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานตามนโยบายเข้มกับผู้มีอาวุธปืน จากเหตุการณ์ยิงกันที่สนามชนไก่ จ.นครปฐม

ชาดา รมช.มหาดไทย จ่อส่งรายชื่อบัญชีมาเฟียสิ้นเดือนต.ค. ลั่นหนุนปิดผับบาร์ตี 4 ในจังหวัดท่องเที่ยว มองช่วยกระตุ้นศรษฐกิจ

  • รับ พ.ร.บ. อาวุธปืน พ.ศ. 2490 เป็นกฎหมายที่เก่ามาก ควรมีการปรับปรุงแก้ไข
  • เชื่อการควบคุมอาวุธปืนในครั้งนี้ จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้ระดับหนึ่ง

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เปิดเผยถึงประเด็นการควบคุมอาวุธปืนเถื่อนว่า ขณะนี้หากพบการครอบครองอาวุธปืนเถื่อน เจ้าหน้าที่ต้องจับกุมอยู่แล้ว โดยอาจจะออกกฎเพิ่มเติมหลังจากนี้ ซึ่งตนยังไม่สามารถตอบรายละเอียดเรื่องนี้ได้ เพราะอยู่ระหว่างการดูข้อระเบียบ ในเรื่องของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อาวุธปืน พ.ศ. 2490 ยอมรับว่าเป็นกฎหมายที่เก่ามาก ควรมีการปรับปรุงแก้ไข แต่ต้องไปว่ากันในระบบของรัฐสภา ทางกระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการให้กฎหมายมีความครอบคลุม และทันสมัยมากยิ่งขึ้น

นายชาดา กล่าวด้วยว่า การควบคุมอาวุธปืนในครั้งนี้จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ในระดับหนึ่งเพราะจะมีมาตรการที่คุมเข้มมากขึ้น เช่น การซื้อขายกระสุนปืนจะต้องมีใบ ป.3 ด้วย และมีข้อกำหนดว่าจะสามารถถือครองได้กี่นัด อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องมีการแก้กฎหมายร่วมด้วย

ทั้งนี้ เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการปราบปรามผู้มีอิทธิพล นายชาดา กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อโดยคาดว่าต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะจะรวบรวมรายชื่อจากหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และต้องพิจารณาถึงพฤติกรรมร่วมด้วย ต้องขอให้ประชาชนใจเย็นๆ ย้ำว่า ตอนนี้กำลังดำเนินการอยู่ คาดว่าจะสามารถส่งรายชื่อได้ในช่วงสิ้นเดือน ต.ค.นี้ 

ทั้งนี้ เมื่อสอบถามว่า มีความกังวลในจังหวัดไหนเป็นพิเศษหรือไม่ นายชาดา กล่าวตอบว่า พื้นที่ จ.นครปฐม เพราะมีการยิงกันบ่อย แต่ก็มีอีกหลายจังหวัดที่กังวล

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงกรณีที่จะมีการอนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงถึงช่วงเวลา 04.00 น. นายชาดา กล่าวว่า ตนเห็นด้วยและควรทำมานานแล้ว โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว ซึ่งการเปิดสถานบันเทิงถึงเวลา 04.00 น. ไม่ใช่เรื่องอาชญากรรม แต่เป็นเรื่องของการท่องเที่ยว หลายประเทศเขาก็เปิดกัน ตนมองว่าเป็นคนละเรื่องกับความมั่นคงแต่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่วนมาตรการความปลอดภัยหลังจากนี้ เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมดูแลตลอดเวลา