วันนี้ (27 ก.ย.64) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายอุดม รัฐอมฤต อดีตคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ปี 60 ยืนยันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ไม่เข้าเงื่อนไขตามที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 158 วรรคสี่ ระบุว่า นายกรัฐมนตรีจะดำรงตำแหน่งรวมกันแล้วเกิน 8 ปีมิได้ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดำรงตำแหน่งติดต่อกันหรือไม่ แต่มิให้นับรวมระยะเวลาในระหว่างที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปหลังพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากการนับอายุดำรงตำแหน่ง เริ่มขึ้นเมื่อรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มีผลบังคับใช้ ไม่นับตั้งแต่ก่อนการรัฐประหาร
ทั้งนี้การตีความของนายวิษณุ และนายอุดม จึงเป็นการตีความกฎหมายแบบศรีธนญชัย เพื่อเอาใจผู้มีอำนาจมากกว่าที่จะพิจารณาถึงข้อกฎหมาย นอกจากนี้ การพูดเช่นนี้เป็นการชี้นำศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายวิษณุทำตัวเป็นศาลรัฐธรรมนูญเสียเอง ดังนั้นในส่วนของพรรคฝ่ายค้านจะมีการยื่นตีความคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างแน่นอน ว่าขัดกันซึ่งผลประโยชน์หรือไม่
“ส่วนกรณีที่พรรคร่วมรัฐบาลออกมาโจมตีฝ่ายค้านในกรณีดังกล่าว เป็นเพียงต้องการเกาะอำนาจเท่านั้น เพราะถ้าผลออกมาว่าประยุทธ์ หลุดตำแหน่งก็จะหลุดตามไปด้วย” นพ.ชลน่าน กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า การลงพื้นที่ตรวจดูสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น เป็นการไปสร้างภาระให้กับหน่วยงานในพื้นที่มากกว่า ทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ข้าราชการทุกหน่วยงานนับร้อยคน ต้องทิ้งภารกิจทุกอย่าง เพื่อมารอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ลงตรวจพื้นที่ ทั้งๆ ที่ข้าราชการเหล่านี้ควรออกไปช่วยชาวบ้านมากกว่านอกจากนี้ ประชาชนที่ไปรอต้อนรับ ต้องผ่านการคัดกรองและจัดฉากให้พูดเยินยอ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเดียวเท่านั้นไม่สามารถสะท้อนปัญหาของพื้นที่ได้แต่อย่างใด
“การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ เป้าหมายไม่ได้ลงไปเพื่อพบปะพี่น้องประชาชน แต่เป็นการวัดพลังในพรรคพลังประชารัฐมากกว่า ดังนั้นจึงเห็นการระดม ส.ส.ของพรรคไปรอรับ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงจำนวนหนึ่งเท่านั้น สะท้อนถึงความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล ดังนั้นผลที่ออกมาจึงไม่ได้เป็นการไปให้กำลังประชาชน แต่ไปเพื่อสร้างฐานอำนาจในพรรคมากกว่า” นพ.ชลน่าน กล่าว
