จ่ายแล้ว!เคลียร์จบค่าเวนคืนมอ เตอร์เวย์“บางใหญ่-กาญจนบุรี”

  • “ศักดิ์สยาม -อธิรัฐ”  มอบค่าเวนคืนประชาชนพื้นที่อำเภอบางใหญ่ นนทบุรี  
  • แก้ปัญหาการจราจรระบายรถได้เพิ่ม 50,000 คันต่อวัน
  • สร้างเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับประชาชนตลอดเส้นทาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2562 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพร้อมด้วย นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง  หมายเลข 81  สายบางใหญ่-กาญจนบุรี  พร้อมมอบเงินค่าเวนคืนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ให้กับประชาชน ในพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี  ที่ได้รับผลกระทบในการดำเนินโครงการดังกล่าว

 

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานมอบเงินค่าเวนคืนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับประชาชน ในพื้นที่อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ในโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ระยะทาง 96.41 กิโลเมตร (กม.) ว่า ตามที่รัฐบาลได้ดำเนินการทำพิธีมอบเงินค่าเวนคืนที่ดิน ตั้งแต่วันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม และจังหวัดกาญจนบุรี ในวันที่ 18 ธ.ค. และล่าสุดวันที่20 ธ.ค.นี้ ที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งครบตามจำนวน 4,571 ราย และได้เดินหน้าเครื่องจักร Restart ก่อสร้างโครงการฯ พร้อมทั้งเร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปลายปี 2565 หรือช้าสุดช่วงต้นปี 66

สำหรับโครงการมอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ถือเป็นเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ทั้งในด้านการค้า การลงทุน การพัฒนาเศรษฐกิจ ผลักดันจีดีพีของประเทศเติบโตโดยรวม 1% และการอำนวยความสะดวกประชาชน โดยการเชื่อมต่อไปยังท่าเรือน้ำลึกทวาย ด่านพรมแดนเมียนมา รวมถึงเชื่อมโยงการขนส่งกับกลุ่มประเทศ BIMSTEC ที่ประกอบด้วย 4 ประเทศ คือ บังคลาเทศ อินเดีย ศรีลังกา และไทย นอกจากนี้ ยังเป็นเส้นทางการขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือแหลมฉบัง ในพื้นที่การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) พร้อมทั้งเชื่อมต่อกับ สปป.ลาว และเวียดนามในอนาคตด้วย ทั้งนี้ จะทำให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลาง (Hub) ด้านโลจิสติกส์ และติดอันดับ 1 ใน 5 ประเทศชั้นนำของภูมิภาคเอเชียด้วย

“ รัฐบาลไม่เพียงแต่จะให้ความสำคัญ เฉพาะการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเท่านั้น แต่ยังใส่ใจและให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต และยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดนนทบุรี บริเวณบางใหญ่แห่งนี้ มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจค่อนข้างสูง มูลค่าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นเพราะมีการคาดการณ์ว่าเมื่อถนนเส้นนี้แล้วเสร็จ จะส่งผลให้เกิดการค้า การลงทุนเพิ่มสูงขึ้นมีการสร้างงาน สร้างรายได้ จำนวนมหาศาล  ในส่วนของการคมนาคม คาดว่าจะช่วยระบายการจราจรได้ประมาณ 5 หมื่นคันต่อวัน ในพื้นที่บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี “                                                                                     

ด้านนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) กล่าวว่า จากข้อสั่งการของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มอบหมายให้ ทล.ไปหารือร่วมกับผู้รับเหมาโครงการมอเตอร์เวย์สายดังกล่าว พร้อมเร่งรัดแผนการดำเนินการให้แล้วเสร็จเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ หรือภายใน ธ.ค. 2566 นั้น หลังจากเจรจากับผู้รับเหมาทั้ง 25 ตอนแล้ว ได้ทยอยเข้าพื่นที่ และเดินหน้างานทันที 

โดยการก่อสร้างงานโยธาคืบหน้าอยู่ที่ประมาณ 25.05% ล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนดประมาณ56% ทั้งนี้ คาดว่างานโยธาจะแล้วเสร็จ 100% เร็วขึ้น 4 เดือน หรือแล้วเสร็จภายใน ธ.ค. 2565 จากเดิมภายในเม.ย. 2566 จากนั้นจะทยอยเปิดทดลองให้ใช้บริการฟรี ซึ่งถือเป็นการมอบของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนในช่วงเวลานั้นด้วย อย่างไรก็ตาม ในระหว่างนั้น จะดำเนินการคู่ขนานไปกับงานระบบ O&M (Operation & Maintenance) ที่จะแล้วเสร็จช่วง ก.พ. 2566 ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายใน ก.ย. 2566

นายสราวุธ กล่าวต่ออีกว่า จังหวัดนนทบุรี มีผู้ถูกเวนคืนที่ดินและทรัพย์สินทั้งสิ้น 818 ราย วงเงินที่อนุมัติจ่ายค่าเวนคืนประมาณ 3,142 ล้านบาท มีผู้มาทำสัญญาแล้ว 482 ราย และอยู่ระหว่างรอทำสัญญา 336 ราย ทั้งนี้ การจ่ายค่าเวนคืนต้องจ่ายทั้งหมด 4,571 แปลงต่อราย รวมเป็นเงิน 11,917,387,737 บาท ล่าสุด ทำสัญญาจ่ายแล้ว3,597 ราย เป็นเงิน 8,644,137,833 บาท คิดเป็น 78% โดยแบ่งเป็นพื้นที่ที่โดนการเวนคืน ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี818 แปลงต่อราย เป็นเงิน 3,142,318,162 บาท จ่ายแล้ว 491 ราย เป็นเงิน 2,103,173,662 บาท คิดเป็น 60% ในส่วนจังหวัดนครปฐม 2,941 แปลงต่อราย เป็นเงิน 8,044,673,311 บาท จ่ายแล้ว 2,377 ราย เป็นเงิน5,879,147,309 บาท คิดเป็น 80% ขณะที่ จังหวัดราชบุรี 123 แปลงต่อราย เป็นเงิน 81,207,921 บาท จ่ายแล้ว110 ราย เป็นเงิน 67,456,736 บาท คิดเป็น 89% และ จังหวัดกาญจนบุรี 689 แปลง/ราย เป็นเงิน 649,188,343 บาท จ่ายแล้ว 619 ราย เป็นเงิน 594,360,126 บาท คิดเป็น 89%