จูงใจประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า ครม. เคาะลดภาษีประจำปีรถ EV ระยะเวลา 1 ปี

  • กระตุ้นระบบเศรษฐกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศ
  • หวังลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และปริมาณ PM 2.5 ในอากาศ
  • เผยรัฐสูญเสียรายได้การจัดเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าปี 65-68 ประมาณ 18,974,572 บาท

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ก.ค.65) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ฎ. ลดภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ตามกม. ว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. …. มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ลดอัตราภาษีประจำปี สำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวที่จดทะเบียน ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 65 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 68 ลงร้อยละ 80 ของอัตราที่กำหนดตาม(11) ของอัตราภาษีประจำปีท้าย พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 22 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ. รถยนต์ (ฉ. 14) พ.ศ. 50 เป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียน เพื่อเป็นการจูงใจให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล ส่งเสริมและสร้างแรงจูงใจในการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปริมาณ PM 2.5 ในอากาศตลอดจนช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศด้วย

นายธนกร กล่าวว่า การลดอัตราภาษีประจำปีสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว โดยคาดว่าจะมีรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจำนวน 128,736 คัน ทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีประจำปีรถยนต์ไฟฟ้าปีงบประมาณ 2565 -2568 ประมาณ 18,974,572 บาท ซึ่งเป็นการสูญเสียรายได้เพียงร้อยละ 0.05 เป็นจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับรายได้ที่กรมการขนส่งทางบกจัดเก็บทั้งหมด ซึ่งไม่กระทบต่อรายได้ของกรุงเทพมหานครและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะนำไปจัดทำบริการสาธารณะให้กับประชาชน