“จาตุรนต์”สวดรัฐบาลยับขอสังคมไทยจริงจัง ช่วยกันคิดเปลี่ยนแปลงการเมือง

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวว่า ขณะนี้คนไทยอยู่ด้วยความรู้สึกอึดอัด คือ เดือดร้อนกันทั่วไปหมด และรู้ว่าต่อจากนี้ไปจะเดือดร้อนกว่านี้อีกมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ รู้ว่ารัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ ก็ได้แต่คิดว่ารัฐบาลนี้จะอยู่อีกนานมั้ย เดิมสภาพเศรษฐกิจก็แย่มากอยู่แล้ว แต่ปัญหาไวรัสโควิด-19 กำลังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งโลกได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยแล้ว และจะส่งผลกระทบมากขึ้นอีกมาก แต่เมื่อดูการจัดการแก้ปัญหาของรัฐบาล ยังไม่มีประสิทธิภาพการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่ผ่านมาผิดทิศผิดทางไม่ตรงจุดมาตลอด รวมถึงการรับมือกับปัญหาใหญ่ๆ ที่จะเกิดขึ้นอย่างเรื่องภัยแล้ง คนตกงาน ฝุ่น PM 2.5 ล่าสุดเกิดไวรัสโควิด-19 เห็นถึงความละหลวมไร้ประสิทธิภาพในการรับมือตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ โรงพยาบาลต่างๆ ขาดแคลน และการปล่อยให้คนจากประเทศเสี่ยงเข้าประเทศได้อย่างเสรี

ทั้งนี้ในการรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 ในภาคส่วนต่างๆ แทนที่จะคิดมาตรการช่วยเหลือไม่ให้ธุรกิจต่างๆ ต้องปิดกิจการ ไม่ให้คนต้องหยุดทำมาค้าขาย และเตรียมมาตรการทางด้านสวัสดิการดูแลคนตกงานคนไม่มีรายได้และและคนยากจน และกลับมาใช้วิธีการแจกเงินคนละ 2,000 บาท เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว

ขณะนี้น่าจะพูดได้ว่าคนไทยเกือบทุกฝ่ายทุกภาคส่วนเห็นพ้องต้องกันว่า รัฐบาลนี้แก้ปัญหาประเทศไม่ได้แน่ และหากปล่อยให้บริหารต่อไปประเทศไทยคงก้าวสู่ความวิบัติหายนะ แต่เมื่อมาดูระบบกลไกทางการเมืองที่จะเปลี่ยนรัฐบาล ก็จะพบว่ายังเป็นไปได้ยากมากในระบบรัฐสภา พรรคฝ่ายค้านอ่อนแอลงและอยู่ระหว่างการปรับตัว ยังไม่แน่ว่าจะเข้มแข็งขึ้นได้ในเร็วๆ นี้หรือไม่ เมื่อพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบไป พรรคใหม่ที่มาแทนที่ก็ย่อมขาดบุคลากรไป และยังต้องจัดขบวนกันใหม่ รวมทั้งจัดความสัมพันธ์กับอดีตแกนนำที่ทำกิจกรรมนอกสภา ส่วนพรรคเพื่อไทยก็อยู่ในสภาพปั่นป่วนละล้าละลัง ต้องการการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ การเคลื่อนไหวของพรรคฝ่ายค้านทั้งในสภาและนอกสภาจึงยังจะมีข้อจำกัดอยู่มาก ยังดีที่มีประชาชนจำนวนมากให้การสนับสนุนและเอาใจช่วยอยู่

อย่างไรก็ตามในส่วนของการเคลื่อนไหวของนักศึกษาทั่วประเทศนั้นมีศักยภาพ และเป็นความหวังของประชาชนว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทางที่ดี แต่ก็ยังต้องอาศัยเวลาที่จะสะสมกำลัง สร้างความเข้าใจและเพิ่มการสนับสนุนทั้งจากนักศึกษาด้วยกันและจากประชาชนทั่วไป รวมทั้งยังต้องเรียนรู้ที่จะผ่านด่านวิชามารของรัฐบาลและพรรคพวก นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองคือ ประชาชนกลุ่มอาชีพต่างๆ ที่เดือดร้อนและกำลังจะเดือดร้อนมากขึ้น แต่ยังไม่กล้าหรือยังไม่มีวิธีแสดงออก

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยกำลังจะเข้าสู่สภาพที่ย่ำแย่ที่สุดในรอบหลายสิบปี เมื่อรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพยิ่งอยู่นานประชาชนก็ยิ่งเดือดร้อน ต่อไปคนก็จะยิ่งมีข้อสรุปว่าต้องเปลี่ยนรัฐบาล แต่ระบบกติกาสวยก็ทำให้เปลี่ยนรัฐบาลยากมาก จำเป็นต้องแก่รัฐธรรมนูญ ซึ่งก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก ประเทศไทยกำลังอยู่ในสภาพที่กำลังเดินหน้าสู่ความวิบัติหายนะ ก่อนที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

ดังนั้นสิ่งที่ทุกฝ่ายทุกภาคส่วนในสังคมไทยต้องช่วยกันคิดอย่างจริงจังก็คือ จะทำอย่างไรที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก่อนที่บ้านเมืองจะหายนะ หรือจะเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเพื่อหลีกเลี่ยงวิบัติหายนะได้อย่างไร

ขอบคุณข้อมูลและภาพ จากแนวหน้าออนไลน์